
ที่มาของรูปภาพประกอบ https://www.thaigov.go.th
รมว.สธ. ฉีดวัคซีนเข็มแรกในไทย
วันนี้ (28 ก.พ.64) เวลา 07.30 น. ที่สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนโควิด – 19 ให้กับผู้แทนกลุ่มเป้าหมาย บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า และ อสม. (10 คน) ครั้งแรกในประเทศไทย โดยผู้เข้ารับวัคซีนคนแรก คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คนที่2 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข คนที่ 3 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม คนที่ 4 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข คนที่ 5 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และคนที่ 6 นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตามด้วยบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล และ อสม. ตามลำดับ และในวันนี้ยังได้มีการเตรียมวัคซีนสำหรับ ฉีดกลุ่มเป้าหมายจำนวน 200 โดส
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการมาตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนโควิด – 19 ให้ผู้แทนกลุ่มเป้าหมาย บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า และ อสม. (10 คน) ครั้งแรกในประเทศไทย โดยระบุว่าเพื่อมาให้กำลังใจ ซึ่งการฉีดวัคซีนวันนี้เป็นไปตามคำแนะนำของคณะแพทย์ที่ได้กำหนดขึ้นมา โดยขั้นตอนการฉีดก็เป็นในลักษณะคล้ายกับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และมั่นใจทุกคนจะได้รับการดูแลที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพ พร้อมขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าส่วนราชการปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันทำงานอย่างหนักจนมีวันนี้ขึ้นมา แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมในการที่จะรับวัคซีน ซึ่งการฉีดวัคซีนโควิค 19 วันนี้ถือเป็นวันสำคัญและเป็นวันประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งของประเทศ โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นคนแรกที่รับการฉีดวัคซีน และหลังจากสังเกตอาการ 30 นาที ยังไม่พบมีอาการผิดปกติ ในส่วนของนายกรัฐมนตรีจะต้องรอสักระยะหนึ่งตามคำแนะนำของแพทย์ ขอให้ทุกคนได้มั่นใจในความปลอดภัยของวัคซีน
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้เชิญชวนประชาชนชาวไทย เข้ารับการตรวจสอบคัดกรองตามขั้นตอน เพื่อรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 เริ่มวันพรุ่งนี้ โดยจะเริ่มในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงก่อน และขยายไปสู่พื้นที่อื่นต่อไปตามลำดับ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่และตนเองมีภูมิคุ้มกัน โอกาสติดเชื้อน้อยลงและยังป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นด้วย
ที่มาของข่าว https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/39462