การโจมตีจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) ทำให้ระบบของโรงพยาบาล Oloron-Sainte-Marie ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ต้องหยุดชะงัก ซึ่งกลุ่มผู้โจมตีเรียกร้องค่าไถ่เป็นจำนวน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ เหตุการณ์ดังกล่าวถูกตรวจพบโดย RémiRivière วิศวกรผู้รับผิดชอบการติดตั้งระบบ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ไอทีต้องปิดระบบเครือข่ายบางส่วนของโรงพยาบาล เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของมัลแวร์
โฆษกของโรงพยาบาลแถลงว่า มัลแวร์เรียกค่าไถ่ดังกล่าวเป็นตัวเดียวกับที่โจมตีโรงพยาบาล Dax ในฝรั่งเศสเมื่อ ก.พ. 64 โดยแฮกเกอร์ได้ทำการเข้ารหัสข้อมูลของโรงพยาบาลจากนั้นจึงทำการเรียกค่าไถ่ในเวลาต่อมา การโจมตีโรงพยาบาลและองค์กรด้านการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งที่อันตรายมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งในช่วงเวลาของการโจมตี โรงพยาบาลดังกล่าวกำลังเตรียมการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ทำให้การปฏิบัติงานได้รับผลกระทบอย่างมาก ไฟล์บันทึกข้อมูลของผู้ป่วยต่างได้รับผลกระทบ อีกทั้งยังส่งผลต่อระบบที่ใช้ในการตรวจสอบคลังยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ของโรงพยาบาล โดย Frederic Lecenne ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเปิดเผยผ่านสื่อท้องถิ่นว่า การกู้คืนระบบอาจใช้เวลาถึง 48 ชั่วโมงหรืออาจยาวนานถึง 3 เดือน ก่อนหน้านี้ เมื่อ ก.พ. 64 มีโรงพยาบาลอีก 2 แห่งในฝรั่งเศสถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่เช่นเดียวกัน
ที่มา : https://securityaffairs.co/wordpress/115434/cyber-crime/french-hospital-ransomware-attack.html?utm_source=feedly&utm_medium=rss&utm_campaign=french-hospital-ransomware-attack