นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักรได้แถลงแผนยุทธศาสตร์สหราชอาณาจักร (Global Britain in a Competitive Age: the Integrated Review of Security, Defence, Development and Foreign Policy) เมื่อ 16 มี.ค. 64 ซึ่งเป็นการกำหนดทิศทางและเป้าหมายในเรื่องนโยบายการต่างประเทศ กลาโหม และความมั่นคงของสหราชอาณาจักรจนถึงปี 2568 และกำหนดเพิ่มงบประมาณลงทุนด้านกลาโหมเป็นเงินจำนวน 24,000 ล้านปอนด์ (33,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยจะใช้เงินจำนวนกว่า 6,600 ล้านปอนด์ (9,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)สำหรับการลงทุนวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการสงครามสมัยใหม่ เช่น อากาศยานไร้คนขับ ขีปนาวุธความเร็วสูง นอกจากนี้ แผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับลงทุนพัฒนาศักยภาพด้านไซเบอร์ของสหราชอาณาจักรครั้งใหญ่ เพื่อตรวจจับ กำจัด และขัดขวางศัตรูทางไซเบอร์
รัฐบาลสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะภัยคุกคามทางไซเบอร์จากรัสเซียและจีนที่ส่งผลร้ายแรงต่อประเทศ สอดคล้องกับรายงานจากคณะกรรมการรัฐสภาซึ่งชี้ว่าการโจมตีทางไซเบอร์จากรัสเซียเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เช่น รัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศของสหราชอาณาจักร และการหลอกหลวงเจ้าหน้าที่รัฐทางออนไลน์ (Phishing)
แผนยุทธศาสตร์ฉบับใหม่นี้นำเสนอกลยุทธ์ทางด้านไซเบอร์ในภาพรวมของประเทศ มุ่งเน้นเพิ่มศักยภาพและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบนิเวศทางไซเบอร์ สร้างโลกไซเบอร์ที่ปลอดภัย และกำหนดทิศทางให้สหราชอาณาจักรเป็นผู้นำเทคโนโลยียุคใหม่ เช่น ไมโครโปรเซสเซอร์ ควอนตัมเทคโนโลยี และการสื่อสารข้อมูลรูปแบบใหม่ในอนาคต ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรจะเผยแพร่แผนยุทธศาสตร์ไซเบอร์แห่งชาติ (National Cyber Strategy) ในห้วงปลายปี 2564 ให้มีความสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ดังกล่าว มุ่งเน้นการป้องกันศัตรูทางไซเบอร์ ด้วยการเสริมสร้างกองกำลังไซเบอร์แห่งชาติ (National Cyber Force – NFC) เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์จากกลุ่มก่อการร้าย กลุ่มอาชญากรรม กลุ่มแฮกเกอร์ที่รัฐต่างชาติให้การสนับสนุน
ที่มา : https://www.zdnet.com/article/cyber-strength-now-key-to-national-security-says-uk/