บริษัท SpaceX ผู้พัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและจรวดของสหรัฐฯ ของนาย Elon Musk กำลังเร่งพัฒนา โครงการ Starlink หรือโครงข่ายดาวเทียมเชิงพาณิชย์ เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมครอบคลุมทั่วโลก โดยคาดว่าจะใช้ได้เต็มรูปแบบในปี 2570 ซึ่งจะมีความโดดเด่นอย่างมากจากการที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วสูง มีราคาต่ำ รวมถึงมีความหน่วงต่ำมากที่ประมาณ 20-40 มิลลิวินาทีเป็นครั้งแรก เนื่องจากเป็นอินเทอร์เน็ตจากดาวเทียมที่โคจรในวงรอบที่ต่ำ (Low Earth Orbit-LEO/ระยะ 500 – 1,500 กิโลเมตรจากโลก) ต่างจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตปัจจุบันที่มาจากดาวเทียมที่มีวงรอบห่างไกลจากโลกมาก (ระยะ 5,000 – 35,800 กิโลเมตรจากโลก)
บริษัท SpaceX มีความคืบหน้าในการดำเนินโครงการ Starlink อย่างต่อเนื่อง โดยปล่อยดาวเทียม Starlink สู่วงโคจรแล้วมากกว่า 1,443 ดวง ซึ่งนาย Elon Musk ตั้งเป้าจะปล่อยดาวเทียมของโครงการ SpaceX ให้ได้ทั้งหมด 42,000 ดวง โดยดาวเทียมแต่ละดวงจะทำงานโดยส่งผ่านข้อมูลระหว่างกันอย่างรวดเร็วผ่านแสงเลเซอร์ ทั้งนี้ ตั้งแต่ ต.ค.63 SpaceX เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการทดสอบใช้งานอินเทอร์เน็ต Starlink กับผู้ใช้งานในสหรัฐฯ และแคนาดา และประเทศอื่น ๆ ประมาณ 10,000 คนทั่วโลก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 บาท/เดือน พร้อมค่าอุปกรณ์ Starlink Kit สำหรับติดตั้งเพื่อเชื่อมต่อการใช้งานอีกประมาณ 15,000 บาท ซึ่งช่วงทดสอบอินเทอร์เน็ต Starlink พบว่า อินเทอร์เน็ตมีความรวดเร็ว 50-150 เมกะไบต์/วินาที แต่นาย Elon Musk ระบุว่า ความเร็วอินเทอร์เน็ตของ Starlink จะเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็น 300 เมกะไบต์/วินาที ภายในสิ้นปี 2564
หากโครงการ Starlink สำเร็จตามเป้าหมายได้จริงตามที่นาย Elon Musk ตั้งเป้าเอาไว้ ก็น่าจะส่งผลดีต่อโลกอย่างมาก โดยน่าจะช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล (Digital Divide) ในปัจจุบัน ที่ประชากรโลกกว่า 1 ใน 2 ยังเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งอินเทอร์เน็ตที่ครอบคลุมทั่วโลกในราคาต่ำจะช่วยส่งเสริมการขยายตัวเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลกในยุคที่อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งพื้นฐานสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล อีกทั้งโครงการดังกล่าวน่าจะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของโลกจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอวกาศมหาศาล โดย บริษัท SpaceX คาดว่า โครงการ Starlink จะสร้างรายได้ 30,000 – 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี นอกจากนี้ การที่ทั่วโลกมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและต้นทุนต่ำของ Starlink ก็น่าจะช่วยเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ Internet of Things (IoTs) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence-AI) รวมถึงการพัฒนา 6G น่าจะทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้นทั่วโลก
ในทางตรงกันข้าม การประสบความสำเร็จของโครงการ Starlink อาจไม่ได้ส่งผลในเชิงบวกเพียงอย่างเดียวต่อโลก แต่ยังมีประเด็นที่น่าห่วงกังวลและน่าจับตามอง โดย Starlink อาจส่งผลกระทบต่อการเมืองและความมั่นคงระหว่างประเทศ เนื่องจากจะทำให้รัฐบาลทั่วโลกสูญเสียอำนาจอธิปไตยในการควบคุมเครือข่ายและข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต และบางประเทศจะไม่สามารถควบคุมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชาชนในประเทศได้ นอกจากนี้ การแข่งขันด้านธุรกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตด้วยดาวเทียมวงโคจรต่ำยังมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยมีหลายบริษัทที่กำลังแข่งขันกับ Starlink อาทิ โครงการ Kuiper ของ Amazon โครงการ OneWeb ของสหราชอาณาจักร รวมถึงโครงการ Hongyan ของจีน ซึ่งจะท้าทายความร่วมมือระหว่างประเทศในการออกกฎระเบียบระหว่างประเทศ เพื่อกำกับดูแลการแข่งขันดังกล่าวในการป้องกันความเสี่ยงที่ดาวเทียม LEO จะเพิ่มจำนวนขึ้นจนหนาแน่น ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงที่ดาวเที่ยม LEO อาจชนกัน สร้างขยะอวกาศ และส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ แม้ระบบหน้าบ้านจะอยู่ทั่วโลกแต่ระบบหลังบ้านของ Starlink จะรวมอยู่แค่จุดเดียวที่บริษัท Starlink จึงเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์
จากข้อดีข้อเสียของโครงการ Starlink ข้างต้น ทุกประเทศทั่วโลกอาจจะต้องเร่งพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในการอนุญาตให้ Starlink เปิดให้บริการในแต่ละประเทศ โดยจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลดีทางเศรษฐกิจและการพัฒนา กับความท้าทายด้านความมั่นคงและการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งในอนาคต เมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะออกใช้ทั่วโลกมากขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลทั่วโลกก็จะเผชิญความท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน อีกทั้งการที่ประเทศมหาอำนาจแข่งขันด้านเทคโนโลยีมากขึ้น ยังมีแนวโน้มทำให้ความร่วมมือระหว่างประเทศในการออกกฎกติกาเพื่อควบคุมอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันในระดับโลกเป็นเรื่องท้าทายอย่างมากในอนาคต
———————————————–
เรียบเรียงจาก
- https://www.businessinsider.com/how-elon-musk-42000-starlink-satellites-earth-effects-stars-2020-10#:~:text=As%20of%20early%20October%2C%20SpaceX,of%2042%2C000%20satellites%20circling%20Earth.
- https://www.theverge.com/2021/4/9/22374262/oneweb-spacex-satellites-dodged-potential-collision-orbit-space-force
- https://www.forbes.com/sites/greatspeculations/2021/04/16/is-spacex-really-worth-74-billion/?sh=77c51a335127
- https://www.allaboutcircuits.com/news/how-spacex-starlink-project-seeks-bridge-digital-divide/
- https://www.bangkokpost.com/business/2088095/elon-musk-and-amazon-are-battling-to-put-satellite-internet-in-your-backyard