เวียดนาม

ส่วนราชการของไทยในเวียดนาม ทั้งสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ยังเผยแพร่ช่องทางติดต่อและจัดทำเว็บไซต์ของส่วนราชการ รายละเอียด ดังนี้

นอกจากนี้ ชาวไทยที่ต้องการเดินทางไปยังเวียดนาม ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการขอวีซ่าเวียดนาม รวมถึงกฎระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย

ที่อยู่ สอท.เวียดนาม/ไทย : 83/1 ถ.วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

เว็บไซต์                     : https://vnembassy-bangkok.mofa.gov.vn

โทรศัพท์                   : 02 251 3552, 251 5838, 251 7202

โทรสาร                     : 02 251 7201, 251 7203

อีเมล                         : [email protected]

การขอวีซ่า

– ผู้ที่มีสัญชาติไทยไม่ต้องขอวีซ่าเข้าเวียดนาม หากพำนักอยู่ไม่เกิน 30 วัน

– การขอวีซ่า On Arrival อาจได้รับอนุญาตเฉพาะกรณีฉุกเฉิน เช่น ผู้ขอเดินทางจากประเทศที่ไม่มี สอท./สกญ.เวียดนาม หรือเดินทางผ่านหลายประเทศก่อนมาเวียดนาม หรือเข้าเวียดนามด้วยวัตถุประสงค์ด้านมนุษยธรรม หากฝ่าฝืนอาจเจอบทลงโทษและห้ามเดินทางเข้าเวียดนาม

ค่าธรรมเนียมวีซ่าขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ระยะเวลาพำนักอยู่ จำนวนครั้งเดินทางเข้าเวียดนามหนังสืออนุมัติก่อนเดินทาง และประเภทวีซ่า

เอกสารการขอวีซ่า

1. วีซ่าธุรกิจ (Business Visa)

– หนังสือเดินทางที่มีอายุอย่างน้อย 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่เดินทางเข้าเวียดนาม

– การอนุมัติวีซ่าที่ออกโดยแผนกตรวจคนเข้าเมืองของเวียดนาม

– แบบฟอร์มการขอวีซ่า (ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ สอท.เวียดนาม/ไทย)

– ภาพถ่ายขนาด 4×6 ซม. จำนวน 1 รูป

*เวลาดำเนินการวีซ่าธุรกิจประมาณ 4-5 วันทำการ

2. วีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa)

– หนังสือเดินทางที่ยังคงมีอายุอย่างน้อย 6 เดือน

– แบบฟอร์มการขอวีซ่า (ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ สอท.เวียดนาม/ประเทศไทย)

– ภาพถ่ายขนาด 4×6 ซม. จำนวน 1 รูป

– ค่าธรรมเนียมวีซ่า (เงินบาท) โดยให้ติดต่อแผนกกงสุลสำหรับข้อมูลค่าธรรมเนียมในปัจจุบัน

*เวลาดำเนินการวีซ่าท่องเที่ยว 4 วันทำการ ส่วนกรณีต้องการตรวจสอบสถานะ การดำเนินการคำขอ ให้ส่งคำขอไปยังอีเมล [email protected] พร้อมระบุชื่อเต็ม วันเกิด หมายเลขรับหนังสือเดินทาง หรือวันที่ยื่นเรื่อง สอท.จะไม่ตรวจสอบสถานะการดำเนินการคำขอให้ทางโทรศัพท์

**กรณีวีซ่าด่วน (Express Visa) จำเป็นต้องส่งแบบฟอร์มการขอวีซ่าที่กรอกแล้วและสำเนาหนังสือเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชม. ผ่านอีเมล : [email protected] หรือโทรสาร +66 2650 7525 ก่อนเดินทางไปติดต่อที่ สอท. และชำระค่าธรรมเนียมเพิ่ม

3. วีซ่าสำหรับผู้เยาว์

– ผู้ขอต้องเดินทางพร้อมกับผู้ปกครองอย่างน้อย 1 คน หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย

– นอกจากเอกสารข้างต้น ต้องมี จดหมายอนุญาตการเดินทางที่มีการลงนามจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย สูติบัตรพร้อมสำเนา หรือมีหนังสือรับรอง (เอกสารภาษาต่างประเทศทั้งหมดควรแปลเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาเวียดนาม)

4. วีซ่านักการทูตหรือผู้ถือหนังสือเดินทางราชการ

– ติดต่อแผนกกงสุลของ สอท.โดยตรง ก่อนเดินทางไป สอท.

5. วีซ่าสำหรับนักลงทุน นักข่าว และผู้ที่จะเข้าเวียดนาม เพื่อทำงานกับหน่วยงานหรือสถาบันต่าง ๆ ของเวียดนาม ศึกษา เข้าร่วมการประชุม ทำงาน หรือเยี่ยมญาติ

– หนังสือเดินทางที่มีอายุอย่างน้อย 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่เดินทางเข้าเวียดนาม

– หนังสืออนุมัติวีซ่าที่ออกโดยแผนกตรวจคนเข้าเมือง (ให้บริษัท/หน่วยงานติดต่อแผนกนี้)

– วีซ่านักข่าว ผู้ขอจำเป็นต้องติดต่อศูนย์ Foreign Press Centre สังกัด กต.เวียดนาม ทางเว็บไซต์ http://presscenter.org.vn/home_t55c0tn.aspx

– รูปถ่ายขนาด 4×6 ซม. จำนวน 1 รูป

*เวลาดำเนินการวีซ่า 3 วันทำการ

หมายเหตุ สอท.สงวนสิทธิคิดค่าธรรมเนียมการบริการเพิ่ม กรณีผู้ขอวีซ่าไม่ได้ตรวจสอบ และรีบแจ้งข้อมูลที่ผิดพลาดภายใน 3 วันทำการ นับตั้งแต่วันออกวีซ่า หรือกรณีความผิดพลาดนั้นเกิดจากการกรอกของผู้ขอวีซ่า

คำแนะนำการเดินทาง (Travel Advisory)

เวียดนามระงับและจำกัดการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติและชาวเวียดนามในต่างประเทศชั่วคราว (มิได้ระบุห้วงเวลา) โดยโฆษก กต.เวียดนาม แถลงเมื่อ 13 พ.ค.64 ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีความซับซ้อนทั่วโลก เวียดนามให้ความสำคัญกับการดำเนินมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศ และติดตามสถานการณ์ล่าสุดในประเทศอื่น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจผ่อนปรนหรือเข้มงวดการเข้าเวียดนามของชาวต่างชาติ

ก่อนหน้านี้ เวียดนามปรับระเบียบข้อบังคับสำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้าเวียดนามและผู้ที่ติดต่อกับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างใกล้ชิด โดยขยายระยะเวลากักตัวบุคคลดังกล่าวจาก 14 วัน เป็น 21 วัน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 5 พ.ค.64 และกักตัวเพื่อสังเกตอาการต่อที่บ้านพักอีก 7 วัน โดยไม่อนุญาตให้ออกจากบ้านหรือที่พัก เว้นแต่กรณีจำเป็น และต้องรายงานให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่การแพทย์ในพื้นที่ทราบ ขณะที่ชาวต่างชาติที่เดินทางไปนครโฮจิมินห์จะต้องตรวจหาเชื้อในระหว่างกักตัวเพิ่มจาก 3 ครั้ง เป็น 4 ครั้ง