สหรัฐฯ
ระบุเมื่อ 16 ก.ค.64 เริ่มการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ของ บ.Pfizer บ.Moderna และ บ.Johnson&Johnson รวม 25 ล้านโดส ไปยังแอฟริกา ผ่านโครงการ COVAX
สิงคโปร์
ระบุเมื่อ 16 ก.ค.64 สั่งปิดสถานบังเทิงที่เปลี่ยนมาจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในเวลากลางวันตั้งแต่ 16-30 ก.ค.64 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งมีสถานประกอบการได้รับผลกระทบประมาณ 400 แห่ง
ออสเตรเลีย
ระบุเมื่อ 16 ก.ค.64 เร่งกระจายวัคซีน AstraZeneca ให้ร้านขายยาในนครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ เพื่อให้ประชาชนอายุ 40 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด และประกาศเมื่อ 17 ก.ค.64 สั่งปิดกิจการและธุรกิจที่ไม่จำเป็นในนครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ หลังจากผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้บังคับใช้มาตรการ Lockdown แล้ว 3 สัปดาห์
ญี่ปุ่น
ระบุเมื่อ 15 ก.ค.64 จัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อนำบุคคลสัญชาติญี่ปุ่นในอินโดนีเซียเดินทางกลับญี่ปุ่น หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในอินโดนีเซียอยู่ในภาวะใกล้วิกฤต
WHO
ระบุเมื่อ 15 ก.ค.64 เรียกร้องจีนให้ความร่วมมือในการสืบสวนหาต้นกำเนิดโรค COVID-19 ครั้งที่ 2 อาทิ การอนุญาตให้คณะผู้เชี่ยวชาญของ WHO เข้าถึงข้อมูลปฐมภูมิ และการสนับสนุนข้อมูลอย่างโปร่งใส
มาเลเซีย
ประกาศเมื่อ 15 ก.ค.64 จะหยุดใช้วัคซีน Sinovac ทันทีเมื่อวัคซีนดังกล่าวในมาเลเซียหมดลง และจะเพิ่มการใช้วัคซีน Pfizer สำหรับโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ในประเทศมากขึ้น
รัสเซีย
เปิดเผยเมื่อ 15 ก.ค.64 ว่า วัคซีน Sputnik V ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วใน 68 ประเทศทั่วโลก ทำให้มีการใช้วัคซีนของรัสเซียครอบคลุมประชากรกว่า 3,700 ล้านคนหรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก
กัมพูชา
ระบุเมื่อ 16 ก.ค.64 มีแผนจะฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ให้กับผู้ที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี โดยจะฉีดในพื้นที่ราชธานีพนมเปญ และ จ.กันดาล ก่อนขยายไปยัง จ.พระสีหนุ และพื้นที่อื่น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประชาชน
ลาว
ระบุเมื่อ 16 ก.ค.64 กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับวัคซีน Johnson & Johnson จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มป่วยโรคเรื้อรัง (อายุ 18 ปีขึ้นไป) และบุคลากรทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน