กัมพูชา
ระบุเมื่อ 27 ก.ค.64 เตรียมอนุญาตให้บริษัทเอกชนนำเข้าวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เฉพาะยี่ห้อที่ได้รับอนุมัติจาก WHO เพื่อกระจายวัคซีนให้กับโรงพยาบาลและคลินิกเอกชนทั่วประเทศ
ระบุเมื่อ 27 ก.ค.64 เตรียมอนุญาตให้บริษัทเอกชนนำเข้าวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เฉพาะยี่ห้อที่ได้รับอนุมัติจาก WHO เพื่อกระจายวัคซีนให้กับโรงพยาบาลและคลินิกเอกชนทั่วประเทศ
ระบุเมื่อ 27 ก.ค.64 จะจัดสรรงบประมาณจำนวน 67.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ กระทรวงกลาโหมเวียดนาม เพื่อสนับสนุนภารกิจควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เช่น การรับคนไปยังสถานกักตัว และการจัดการเกี่ยวกับผู้เดินทางข้ามพรมแดน
ประกาศเมื่อ 28 ก.ค.64 ขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการ Lockdown ในรัฐนิวเซาท์เวลส์อีก 1 เดือน จากกำหนดการเดิมที่จะสิ้นสุดมาตรการใน 30 ก.ค.64 เนื่องจากยังพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 สูงอย่างต่อเนื่อง
ระบุเมื่อ 27 ก.ค.64 พบว่าจากการศึกษากับอาสาสมัคร 540 คนที่เข้าร่วม การฉีดวัคซีน Sinovac เข็มที่ 3 หลังจากได้รับวัคซีน Sinovac เข็มที่ 2 แล้ว 6-8 เดือน จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 2 สัปดาห์
สื่อมวลชนต่างประเทศให้ความสนใจการเดินทางของเรือบรรทุกเครื่องบิน HMS Queen Elizabeth (R08) ของสหราชอาณาจักร ที่ปัจจุบันกำลังเดินทางเข้าสู่น่านน้ำเอเชีย เพราะถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่สหราชอาณาจักรส่งเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่เดินทางไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ตามวิสัยทัศน์ “Global Britain in a Competitive Age” ของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีจอห์นสันประกาศว่า ปี 2564 จะเป็นปีที่สหราชอาณาจักรมีบทบาทสำคัญและขยายการมีส่วนร่วมในระดับโลก เพราะนอกจากจะเป็นประธานจัดการประชุม G7 การประชุมโลกร้อน (COP26) สหราชอาณาจักรจะส่งกองเรือพร้อมเรือบรรทุกเครื่องบิน HMS Queen Elizabeth เดินทางทั่วโลกเพื่อแสดงแสนยานุภาพด้านการทหาร รวมทั้งส่งสัญญาณให้ทั่วโลกเห็นว่า สหราชอาณาจักร หลัง Brexit พร้อมจะเป็นผู้เล่นหลักในด้านความมั่นคงทางทะเลที่พึ่งพาได้ และพร้อมจะร่วมมือกับประเทศที่มีค่านิยมสอดคล้องกัน Global Britain เป็นแนวคิดที่สหราชอาณาจักรต้องการปรับเปลี่ยนจุดยืนของตัวเอง จากเดิมที่อยู่เป็นกลุ่มก้อนเดียวกับสหภาพยุโรป ก็ออกไปมีส่วนร่วมในระดับโลกมากขึ้น เพื่อเสริมสถานะและบทบาทของสหราชอาณาจักรหลังจาก Brexit เริ่มต้นอย่างเต็มรูปแบบเมื่อต้นปี 2564 การเดินทางของกองเรือ HMS Queen Elizabeth…
จากเหตุการณ์ระเบิดโรงงานโฟมในซอยกิ่งแก้วที่สร้างความเสียหายให้กับหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง เกิดมลพิษที่มีความอันตรายไปทั่วพื้นที่ในเขตรัศมีไม่ต่ำกว่า 5 กิโลเมตร ทำให้เกิดข้อสงสัยของตำแหน่งที่ตั้งของชุมชนและโรงงานที่อยู่ใกล้กัน เกิดคำถามต่อการจัดการของผังเมืองซึ่งเป็นเครื่องมือการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่างๆ ให้เกิดความเหมาะสม ปลอดภัย และคุ้มค่า มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2050 ประชาชนส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 70 จะอาศัยอยู่ภายในเมือง ที่เป็นแหล่งรวมสิ่งต่างๆ ทั้งแหล่งงาน เทคโนโลยี ความสะดวกสบายและความบันเทิง และโอกาสทางการศึกษา …การเพิ่มขึ้นของจำนวนและความหนาแน่นของประชากร จะส่งผลให้หน้าตาของเมืองเปลี่ยนแปลงไป ตึกระฟ้าทะยานสูงขึ้นเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยและการใช้พื้นที่ทำงาน ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำงานเท่านั้นที่เปลี่ยนจากการขยายตัวทางแนวนอนเป็นแนวตั้ง แม้แต่พื้นที่สีเขียวก็จำเป็นต้องอยู่ในแนวตั้ง และทะยานสูงขึ้นเพื่อผ่อนคลายความเครียดจากการใช้ชีวิตในพื้นที่ที่จำกัด และเมื่อคนจำนวนมากที่อยู่ในตึกสูงๆ ไหลลงสู่ถนนเพื่อเคลื่อนย้ายและใช้ชีวิต แต่ถนนยังคงมีขนาดเท่าเดิม ดังนั้น จึงต้องมีการพัฒนารูปแบบการขนส่งสาธารณะเสริมขึ้นมาทั้งใต้ดินและลอยฟ้า ปัจจุบัน เส้นทางขนส่งสาธารณะกลายเป็นตัวกำหนดการขยายเมืองไปอีกชั้นหนึ่ง เพราะเส้นทางของรถไฟฟ้าทำให้รูปแบบการขยายตัวเปลี่ยนไปจากการกระจุกตัวเป็นย่านล้อมรอบศูนย์กลาง (Concentric Zone Mode) ไปสู่การขยายตัวตามแนวรถไฟฟ้า (Linear Settlement) ในอนาคต…เราอาจจะเห็นคอนโดสูง 30 ชั้นตั้งอยู่กลางทุ่งนาในย่านชานเมือง ตราบใดที่มีรถไฟฟ้าไปถึง และเราอาจได้เห็นสถานบันเทิงอยู่ใกล้กับวัด หมู่บ้านที่อยู่บนทางน้ำหลาก หรือโรงเรียนที่อยู่ใกล้กับโรงงานอุตสาหกรรมก็เป็นไปได้ หากยังไม่มีการวางแผนที่ดีหรือการบังคับใช้ผังเมืองอย่างจริงจัง สิ่งที่เล่ามา คือ แนวโน้มการเติบโตของเมืองกับพฤติกรรมการใช้งานของคนในเมืองปัจจุบัน ซึ่งถ้าเราลองย้อนกลับไปดูว่า เมืองได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร?…
เมื่อทรัพยากรกลายเป็นสินค้าที่คนนิยมและมีความต้องการสูงขึ้น มูลค่าของสินค้านั้นย่อมปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาด ใครก็ตามที่ครอบครองทรัพยากรและสามารถผลิตสินค้านั้นได้ จึงกลายเป็นผู้มีอำนาจการต่อรอง จนไปถึงสามารถขยายอิทธิพลเพื่อแย่งชิงทรัพยากรเหล่านั้นไว้ เพื่อความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ การขยายอิทธิพลนี้มีขึ้นหลากหลายรูปแบบ เช่น การล่าล้างหมู่บ้านชนพื้นเมืองเพื่อทำเหมืองทองคำในสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 2415 หรือการพัฒนาชาสายพันธุ์อินเดียที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ก็เป็นผลมาจากการกีดกันการค้าชาของจีนต่อชาติตะวันตกเมื่อปี 2377 ดังนั้น “ทรัพยากร ความต้องการ และการค้า” เป็นกระแสในการขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงโลกที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีต จนถึงปจจุบัน ในยุคที่เราใช้เครื่องมืออีเล็กทรอนิกส์มากมายในการดำรงชีวิตอย่างสะดวกสบาย ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ เครื่องบิน เครื่องเล่นเกมส์ ของเล่น เครื่องจักร ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็วภายใต้ระบบการสื่อสารไร้สายหรือการเก็บข้อมูลในอากาศ (cloud) ความอัจฉริยะที่เราได้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ล้วนประมวลผลผ่านชิพอันเล็กๆ ที่เรียกได้ว่า “ยิ่งเล็กยิ่งดี” และกว่าจะได้ชิพมานั้นไม่ได้ง่าย จำเป็นต้องทำการสังเคราะห์ผลึกซิลิกอนในห้องทดลองที่มีความสะอาดสูง เพื่อให้ได้ชิพที่มีประสิทธิภาพและมีขนาดบางพอที่จะอยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกรูปแบบได้ เพื่อให้เราสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว ไม่ต้องพกมือถือเครื่องใหญ่ๆ เทอะทะเหมือนแต่ก่อน ไม่ต้องคอยสับสวิตซ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือพกรีโมทหลายอันสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละประเภท รวมไปถึงการใช้ชิพเป็นส่วนหนึ่งของการ์ดจอในคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการขุดหาบิทคอยด์ที่สามารถสร้างมูลค่าและเป็นที่สนใจให้กับผู้ลงทุนอย่างมหาศาลในปัจจุบัน แน่นอนว่า มีผู้คนอีกจำนวนมากที่ยังไม่เข้าถึงการใช้ชิพในการดำรงชีวิต แต่สำหรับชีวิต สังคม และเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันนั้นเป็นไปได้ยากที่จะสามารถดำเนินต่อไปได้ หากปราศจากการประมวลผลที่รวดเร็วจากชิพ ระบบจะเชื่องช้าและหยุดนิ่งไปจะส่งผลกระทบได้มากกว่าที่เราคิด ในยุคของโลกดิจิทัลนี้ เหมือนกับว่าเราจะดำรงชีวิตไม่ได้โดยขาดชิพ…
สำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อ 23 ก.ค.64 ว่า นาย Harry Roque โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ประกาศระงับการเดินทางจากมาเลเซียและไทยตั้งแต่ 25-31 ก.ค.64 ขณะเดียวกันยังประกาศว่า กรุงมะนิลาและพื้นที่ 4 จังหวัด ของฟิลิปปินส์ ได้แก่ Ilocos Norte, Ilocos Sur, Davao de Oro และ Davao del Norte จะยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลตา ที่สำคัญได้แก่ ปิดสถานบริการในร่ม ห้ามผู้มีอายุระหว่าง 5-17 ปีออกจากที่พัก ทั้งนี้ ปัจจุบันฟิลิปปินส์มียอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 สะสมว่า 1.54 ล้านคน และมีผู้เสียชีวติแล้วกว่า 27,000 คน ซึ่งเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย
สำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อ 22 ก.ค.64 ว่า กระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา ตกเป็นเป้าหมายของผู้ต้องหาชาวจีน 4 ราย ที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อยู่ระหว่างส่งคำร้องเพื่อดำเนินคดีใน 19 ก.ค.64 โดยสหรัฐฯ พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 รายจารกรรมข้อมูลการหารือระหว่างรัฐบาลจีนและกัมพูชาเกี่ยวกับแม่น้ำโขงในการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (Lancang-Mekong Cooperation-LMC) เมื่อ 10 ม.ค.61 และจารกรรมข้อมูลการใช้เสียงอะคูสติก (hydroacoustic) สำรวจพื้นที่ใต้น้ำ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ยังไม่พบข้อมูลชัดเจนว่าข้อมูลที่ถูกจารกรรมเกี่ยวข้องกับข้อมูลของแม่น้ำโขงหรือไม่ ทั้งนี้สถานทูตจีนในกัมพูชาและรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธไม่แสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว
สำนักข่าว BNN Bloomberg รายงานเมื่อ 22 ก.ค.64 ว่า นาย Perry Warjiyo ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย แถลงคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรอายุ 7 วัน (7-day reverse repurchase rate) ที่ร้อยละ 3.5 เพื่อรักษาเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยนและระบบการเงิน พร้อมทั้งลดอัตราคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจจากเดิมร้อยละ 4.1-5.1 เป็นร้อยละ 3.5-4.3 หลังรัฐบาลอินโดนีเซียบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 อย่างเข้มงวด ส่งผลต่อการผลิตสินค้าและการบริโภคภายในประเทศ นอกจากนี้อาจส่งผลให้เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฟื้นตัวช้าลง ทั้งนี้ธนาคารกลางอินโดนีเซียยืนยันจะดำเนินมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนหรือมาตรการดูแลในเชิงป้องกัน (Macroprudential policy) โดยรักษาอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินแก่ภาคธุรกิจ