เมื่อทรัพยากรกลายเป็นสินค้าที่คนนิยมและมีความต้องการสูงขึ้น มูลค่าของสินค้านั้นย่อมปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาด ใครก็ตามที่ครอบครองทรัพยากรและสามารถผลิตสินค้านั้นได้ จึงกลายเป็นผู้มีอำนาจการต่อรอง จนไปถึงสามารถขยายอิทธิพลเพื่อแย่งชิงทรัพยากรเหล่านั้นไว้ เพื่อความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ การขยายอิทธิพลนี้มีขึ้นหลากหลายรูปแบบ เช่น การล่าล้างหมู่บ้านชนพื้นเมืองเพื่อทำเหมืองทองคำในสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 2415 หรือการพัฒนาชาสายพันธุ์อินเดียที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ก็เป็นผลมาจากการกีดกันการค้าชาของจีนต่อชาติตะวันตกเมื่อปี 2377 ดังนั้น “ทรัพยากร ความต้องการ และการค้า” เป็นกระแสในการขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงโลกที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีต จนถึงปจจุบัน
ในยุคที่เราใช้เครื่องมืออีเล็กทรอนิกส์มากมายในการดำรงชีวิตอย่างสะดวกสบาย ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ เครื่องบิน เครื่องเล่นเกมส์ ของเล่น เครื่องจักร ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็วภายใต้ระบบการสื่อสารไร้สายหรือการเก็บข้อมูลในอากาศ (cloud) ความอัจฉริยะที่เราได้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ล้วนประมวลผลผ่านชิพอันเล็กๆ ที่เรียกได้ว่า “ยิ่งเล็กยิ่งดี”
และกว่าจะได้ชิพมานั้นไม่ได้ง่าย จำเป็นต้องทำการสังเคราะห์ผลึกซิลิกอนในห้องทดลองที่มีความสะอาดสูง เพื่อให้ได้ชิพที่มีประสิทธิภาพและมีขนาดบางพอที่จะอยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกรูปแบบได้ เพื่อให้เราสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว ไม่ต้องพกมือถือเครื่องใหญ่ๆ เทอะทะเหมือนแต่ก่อน ไม่ต้องคอยสับสวิตซ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือพกรีโมทหลายอันสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละประเภท รวมไปถึงการใช้ชิพเป็นส่วนหนึ่งของการ์ดจอในคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการขุดหาบิทคอยด์ที่สามารถสร้างมูลค่าและเป็นที่สนใจให้กับผู้ลงทุนอย่างมหาศาลในปัจจุบัน
แน่นอนว่า มีผู้คนอีกจำนวนมากที่ยังไม่เข้าถึงการใช้ชิพในการดำรงชีวิต แต่สำหรับชีวิต สังคม และเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันนั้นเป็นไปได้ยากที่จะสามารถดำเนินต่อไปได้ หากปราศจากการประมวลผลที่รวดเร็วจากชิพ ระบบจะเชื่องช้าและหยุดนิ่งไปจะส่งผลกระทบได้มากกว่าที่เราคิด ในยุคของโลกดิจิทัลนี้ เหมือนกับว่าเราจะดำรงชีวิตไม่ได้โดยขาดชิพ เรายังต้องการชิพมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อมาอำนวยความสะดวก ชิพจึงกลายเป็นสินค้าสำคัญที่ทั่วโลกต้องการ
แต่การผลิตชิพนั้นทำได้ยากกว่าการถางป่าเพื่อปลูกไร่ชา หรือการระเบิดภูเขาเพื่อทำเหมืองทองคำ เพราะไม่ใช่ว่าใครที่มีเงินทุนก็สามารถเป็นเจ้าของกระบวนการผลิตชิพได้ ทั้งเครื่องจักรการผลิตและองค์ความรู้ในการพัฒนานั้นมีต้นทุนสูง ต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐที่จะตื่นตัวก้าวขึ้นเป็นผู้นำการผลิตชิพสามารถครอบครองส่วนแบ่งทางการตลาดโลกได้มากที่สุด และภายใต้ภาวะการแข่งขันหรือกีดกันการค้า ดังเช่นที่สหรัฐอเมริกาพยายามกีดกันการส่งชิพไปให้กับจีนในช่วงของการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้รัฐบาลจีนเห็นถึงความเสี่ยงของการขาดแคลนชิพที่เป็นทรัพยากรสำคัญที่คนต้องการโดยเฉพาะประชาชนจีน จีนจึงต้องเร่งทุ่มงบประมาณมหาศาลกว่า 4.5 ล้านล้านบาท ในการสนับสนุนงานวิจัยและเทคโนโลยีในการผลิตชิพไว้ใช้เองและเพื่อค้าขาย ขณะที่สหรัฐอเมริกาเองก็เตรียมลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาทสำหรับการผลิตและพัฒนาชิพ แม้จะไม่สอดคล้องกับความสามารถของแรงงาน แต่เป็นเป้าหมายการสร้างความมั่นคงในการผลิต แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตามทันไต้หวัน ซึ่งครอบครองเทคโนโลยีการผลิตที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีนี้อย่างต่อเนื่องและยาวนานกว่า
โลกยังคงถูกขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วต่อไปด้วยชิพอันเล็กๆ และอีกไม่ช้า…เทคโนโลยีการผลิตจะถูกแพร่ขยายไปมากขึ้น ทำให้มีผู้ผลิตชิพได้เพิ่มขึ้น คนสามารถครอบครองอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกซ์ได้เป็นวงกว้าง พร้อมกับชีวิตที่สะดวกสบายขึ้น ชิพจะกลายเป็นตัวการสำคัญที่จะเชื่อมโยงมนุษย์เข้ากับชุดข้อมูลในยุค 5G ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงและประมวลผลข้อมูลมหาศาลสู่การตัดสินใจและการกระทำของมนุษย์ เรียกได้ว่า…เจ้าชิพเล็ก ๆ นั้นเปลี่ยนโลกทั้งใบ และเปลี่ยนการกระทำของมนุษย์ด้วย
เพราะการประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อนและแม่นยำขึ้นของระบบคอมพิวเตอร์นำไปสู่ความเชื่อมั่นในตัวระบบ และทำให้มนุษย์เชื่อมั่นในระบบมากกว่าการตัดสินใจของตัวเอง… เราเลือกที่จะเชื่อเส้นทางที่ google map แนะนำให้มากกว่าความสามารถในการจดจำทางและการอ่านแผนที่ เราให้ระบบกรองข้อมูลเพื่อเลือกคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคู่เดท รวมไปถึงการตัดสินใจสำคัญๆ ในระดับประเทศจำเป็นต้องประมวลข้อมูลจำนวนมาก เมื่อคนไม่สามารถประมวลผลได้ดีเท่าระบบคอมพิวเตอร์ สุดท้ายเราคงจะเลือกที่จะให้คอมพิวเตอร์ช่วยนำทางไปหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุดก็เป็นได้
ในขณะที่เราก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยมีเทคโนโลยีคอยสนับสนุนการใช้ชีวิตของเรา จนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมคนไปเป็นการเสพติดการใช้เทคโนโลยีจนเราจะขาดมันไม่ได้ เทคโนโลยีกลายเป็นเครื่องมือในการแสดงอำนาจทางการค้าและชี้นำสังคม แต่…เราไม่เคยมองกลับไปว่า เราต้องสูญเสียทรัพยากรอะไรไปบ้างในการแย่งชิงอำนาจหรือได้รับความสะดวกสบายครั้งนี้ ผลกระทบต่อแรงงานที่อยู่ในกระบวนการผลิต คนที่ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี สุดท้ายแล้วพวกเขาเหล่านี้จะมีจุดยืนในสังคมยุคที่เทคโนโลยีเป็นใหญ่นี้อย่างไร