การเมืองอินเดียกลับมาร้อนแรงอีกครั้งเพราะเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาพรรคภารตียชนตา (Bharatiya Janata Party: BJP) พรรครัฐบาลของอินเดียนั้นได้มีการเปลี่ยนตัวมุขมนตรีรัฐคุชราต ซึ่งถือเป็นรัฐที่เป็นฐานคะแนนสำคัญของพรรค BJP
โดยเปลี่ยนจากนายวิชัย รูปาณี (Vijay Rupani) เป็น นายภูเพนทรา พาเทล (Bhupendra Patel) ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของพรรค และน่าสนใจว่าความเปลี่ยนแปลงมุขมนตรีครั้งนี้ของพรรค BJP นั้น จัดเป็นการเปลี่ยนตัวมุขมนตรีในรัฐที่พรรค BJPมีอำนาจ เป็นครั้งที่ 4 ในรอบปีแล้ว
ครั้งแรกที่เกิดขึ้นคือการเปลี่ยนแปลงตัวมุขมนตรีรัฐอุตตรขัณฑ์ ซึ่งรัฐนี้มีความน่าสนใจมากเพราะในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมานั้น มีการเปลี่ยนตัวมุขมนตรีมากถึง 2 คนด้วยกัน โดยคนแรกนั้นนายตรีเวนดรา สิงห์ ราวาท (Trivendra Singh Rawat) อยู่ในอำนาจมากถึงเกือบ 4 ปีเต็ม ก่อนที่นายธีรัต ซิงห์ รวาท (Tirat Singh Rawat) จะขึ้นมารับตำแหน่งแทน (นายธีรัตเป็นสมาชิกโลกสภามาก่อน ทำให้ต้องลาออกมาเป็นมุขมนตรี)
อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดทางด้านรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้มุขมนตรีต้องเป็นสมาชิกสภาแห่งรัฐนั้น ๆ ด้วย และต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 6 เดือน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด19 ส่งผลให้การจัดเลือกตั้งกระทำไม่ได้ ซึ่งส่งผลให้นายธีรัตเองก็ต้องลงจากตำแหน่งไปโดยปริยาย กลายเป็นอีกหนึ่งมุขมนตรีของพรรค BJP ที่ถูกสับเปลี่ยน
ในขณะที่รัฐกรณาฏกะ เองก็มีการเปลี่ยนตัวมุขมนตรีนายบีเอส เยดิยุรัปปะ ( B.S. Yediyurappa) ซึ่งปกครองรัฐนี้มาเป็นเวลานานเช่นเดียวกัน และถือเป็นผู้นำพรรค BJP ในพื้นที่ภาคใต้ของอินเดียด้วย และต้องไม่ลืมว่ารัฐนี้เป็นรัฐเดียวที่พรรค BJP มีอำนาจในพื้นที่ภาคใต้ด้วย ซึ่งปัจจุบันถ่ายโอนอำนาจให้กับนายบาศวราช บอมไม (Basavaraj Bommai)
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงมุขมนตรีของทั้ง 3 รัฐนี้สร้างแรงกระเพื่อมอย่างมากภายในพรรค BJP เพราะดูเหมือนว่าบรรดาผู้นำในพรรคจะไม่หยุดเพียงแค่ 3 รัฐนี้ โดยรัฐอย่างหรยาณา และตรีปุระ เองตัวมุขมนตรีก็อยู่ระหว่างการถูกเพ่งเล็งจากผู้บริหารในพรรค เพื่อเปลี่ยนตัวมุขมนตรี
คำถามก็คือว่าเหตุใดพรรค BJP ถึงเริ่มปรับนโยบายทางการเมืองของตัวเองในการเปลี่ยนแปลงตัวมุขมนตรีกลางคัน ซึ่งไม่ปรากฏมากนักในวัฒนธรรมของพรรคนี้ แต่การกระทำเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ในการเมืองอินเดีย เพราะวัฒนธรรมการปรับตัวมุขมนตรีเช่นนี้เกิดขึ้นปกติในพรรคคองเกรส และเป็นเรื่องที่คนอินเดียรับรู้กันดี
การกระทำของพรรค BJP ทำให้นักวิเคราะห์การเมืองอินเดียจำนวนหนึ่งมองว่า BJP เริ่มมีการปรับเอาแนวทางการเมืองในระบบสายบังคับบัญชาของคองเกรสมาใช้ เพื่อวางแผนสำหรับการเลือกตั้งทั้งในระดับรัฐและระดับชาติ ที่สำคัญคือการฟังเสียงสะท้อนของบรรดาลูกพรรคต่อการทำงานของมุขมนตรีในแต่ละรัฐ
สอดคล้องกันหากพิจารณารายชื่อรัฐต่าง ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงมุขมนตรี จะพบว่ารัฐเหล่านี้อยู่ในช่วงเวลาที่ต้องเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งในครั้งต่อไป ซึ่งในช่วงการเลือกตั้งครั้งก่อนนั้นพรรค BJP สูญเสียที่นั่งไปจำนวนมากให้กับพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากบทบาทของมุขมนตรีที่ไม่มีผลงานชัดเจนนั่นเอง
อย่างกรณีของการเปลี่ยนมุขมนตรีในรัฐคุชราตเอง ก็เป็นผลมาจากการผลักดันของสมาชิกพรรค BJP ในรัฐดังกล่าวที่ระบุชัดเจนว่า ถ้าวิชัย รูปาณียังเป็นมุขมนตรี การเลือกตั้งระดับรัฐที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าพรรค BJP คงแพ้เลือกตั้งอย่างแน่นอน
ดังนั้นการลุกขึ้นมาปรับทัพของพรรค BJP ที่มีนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี รัฐมนตรีมหาดไทยนายอมิต ชาห์ และประธานพรรคนาย เจ พี นัดดา เป็นผลสำคัญมาจากความรู้สึกไม่มั่นใจต่อการเลือกตั้งระดับรัฐที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า และปีถัดไป ซึ่งจะยังผลอย่างมากต่อการเลือกตั้งระดับชาติที่จะเกิดขึ้นในปี 2567
บทความโดย
นายศุภวิชญ์ แก้วคูนอก : นักศึกษาปริญญาเอกที่คณะการจัดการ มหาวิทยาลัยเซี่ยเหมิน และนักวิจัยประจำสถาบันวิจัยแถบและเส้นทางที่สถาบันเดียวกัน สนใจประเด็นการต่างประเทศ การเมือง และการพัฒนาในภูมิภาคเอเชียใต้และจีน