ประเทศทั่วโลกมักประชาสัมพันธ์ความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจเพื่อแสดง “ความเหนือชั้น” กว่าประเทศคู่แข่งเพื่อดึงดูดการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ ด้วยการอ้างอิงรายงานประเมินอันดับด้านเศรษฐกิจระดับโลก ซึ่งรายงาน “Doing Business” ของธนาคารโลก (World Bank-WB) ก็มักจะได้รับการอ้างอิงให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ว่าใครได้อันดับดีขึ้นหรือลดลงในการดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศในแต่ละปี
แต่ล่าสุดเมื่อปลายเดือนกันยายน 2564 Wilmer Cutler Pickering Hale and Dorr บริษัทด้านกฎหมายของสหรัฐฯ ที่สืบสวนความผิดปกติและไม่โปร่งใสของรายงาน “Doing Business” ประจำปี 2561 กล่าวหานาง Kristalina Georgieva ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund-IMF) และนาย Jim Yong Kim อดีตประธาน World Bank ว่า ได้กดดันให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำรายงานดังกล่าว เปลี่ยนแปลงข้อมูลเพื่อปรับอันดับของจีนให้ดีขึ้นมาอยู่อันดับ 78 จากอันดับ 85 โดยเพื่อหวังผลในการขอสนับสนุนเงินทุนจากรัฐบาลจีนเพิ่มเติมให้กับ IMF ซึ่งคณะกรรมการบริหารของ IMF สอบสวนนาง Georgieva ระหว่าง 5-8 ตุลาคม 2564 แต่นาง Georgieva ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ส่วนนาย Jim Yong Kim ยังไม่แสดงท่าที
ทั้งนี้ การไต่สวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวจะดำเนินต่อไปในตุลาคม 2564 และมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบ ได้แก่
1) IMF และ World Bank จะเสื่อมเสียชื่อเสียง หลังเกิดกรณีเรื่องอื้อฉาวของผู้นำองค์กรในช่วง 15 ปี อาทิ นาง Christine Lagrade อดีตผู้อำนวยการ IMF ถูกศาลฝรั่งเศสตัดสินเมื่อปี 2559 ข้อหาประมาทและเบิกจ่ายงบประมาณรัฐบาลฝรั่งเศสโดยมิชอบเมื่อปี 2551 ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฝรั่งเศส นาย Jim Yong Kimลาออกจากตำแหน่งประธาน WB เมื่อปี 2559 ก่อนครบวาระจากปัญหาการเมืองภายในสหรัฐฯ และการบริหารเงินทุนของ World Bank นาย Dominique Strauss-Kahn อดีตผู้อำนวยการ IMF ถูกจับกุมข้อหาพยายามข่มขืนเมื่อปี 2554 และถูกร้องเรียนเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ และนาย Paul Wolfowitz ประธาน World Bank คนที่ 10 ละเมิดกฎ World Bank หลายข้อเมื่อปี 2550 และต้องลาออก หลังจากคณะกรรมการ World Bank ส่วนใหญ่ลงความเห็นให้ลาออก
2) IMF และ World Bank จะดำเนินงานยากขึ้น เนื่องจากเรื่องเสื่อมเสียดังกล่าว จะยิ่งซ้ำเติมภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ จากที่ผ่านมา ประชาคมระหว่างประเทศได้วิจารณ์ถึงความไม่เป็นธรรมต่อการบริหารจัดการสิทธิพิเศษถอนเงิน (Special Drawing Rights -SDRs) หรือสินทรัพย์ที่ IMF กำหนดขึ้นและเป็นเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่แล้ว โดยประเทศร่ำรวยจะได้รับการจัดสรรถึงร้อยละ 60 แต่ประเทศรายได้ต่ำได้รับการจัดสรรเพียงร้อยละ 3 ทั้งที่มีความต้องการเงินทุนมากกว่าประเทศร่ำรวยช่วงวิกฤตโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา COVID-19
3) รายงาน Doing Business เป็นรายงานที่ประเทศต่าง ๆ ใช้อ้างอิงความสามารถในการแข่งขัน ทางเศรษฐกิจ เมื่อเกิดความไม่โปร่งใสและข้อครหาในการจัดอันดับ ความน่าเชื่อถือจึงลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่การยุติการเผยแพร่รายงานดังกล่าว หรือทำให้ประเทศต่าง ๆ อ้างอิงรายงานอื่น ๆ แทน และอาจทำให้รายงานการจัดอันดับความสามารถทางการแข่งขันทั่วโลกโดย International Institute for Management Development (IMD) ของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้รับการยอมรับอย่างมากอยู่แล้ว มีความสำคัญมากขึ้น
ทั้งนี้ คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อกรณีของผู้อำนวยการ IMF และอดีตประธาน World Bank น่าจะเร่งให้กระบวนการตรวจสอบเสร็จสิ้นโดยเร็ว และมีความชัดเจนก่อนการประชุมร่วมของ IMF และ World Bank ประจำปี 2564 ในช่วง 11-17 ตุลาคม 2564 เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และป้องกันไม่ให้ประเด็นดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ในการประชุม ทำให้เกิดข้อกังขา และทำลายบรรยากาศของการประชุมดังกล่าว ซึ่งอาจกระทบต่อเป้าหมายการประชุมที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการเงินทุนของสถาบันการเงินระหว่างประเทศเพื่อให้การช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในยามวิกฤต รวมถึงมุ่งเน้นปรับแผนการดำเนินงานของธนาคารกลางทั่วโลก ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเสี่ยงรอบด้าน และยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤต COVID-19 รวมถึงเผชิญการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจใหม่หลังยุค COVID-19
———————————————–