เมิ่ง หว่านโจว ผู้บริหารสูงสุดด้านการเงิน (Chief Financial Officer-CFO) และลูกสาวผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ย สวมเดรสสีแดงสด เดินลงจากเครื่องบินเช่าเหมาลำ เอารองเท้าส้นสูงแตะพรมแดงที่ปูต้อนรับบนผืนแผ่นดินจีนเมื่อ 25 กันยายน 2564 แล้วโบกมือให้ฝูงชนที่มารอต้อนรับที่ท่าอากาศยานเมืองเซินเจิ้น มณฑลกว่างโจว รวมทั้งผู้ชมที่รับชมการถ่ายทอดสดผ่านสื่อของรัฐ
ภาพการเดินทางกลับจีนครั้งแรกของเมิ่ง หว่านโจว นับตั้งแต่ถูกควบคุมตัวโดยทางการแคนาดา ตามคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนของสหรัฐฯ ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2561 กลายเป็นภาพลักษณ์แห่งชัยชนะของจีน ที่ประชาชนจีนส่วนใหญ่เห็นว่าข้อหาที่สหรัฐฯ อ้างว่าหัวเว่ยละเมิดคว่ำบาตรอิหร่าน เป็นการข่มเหงของสหรัฐฯ ที่จับเอาผู้บริหารหัวเว่ยเป็นตัวประกันเพื่อสกัดกั้นการเติบโตทางเทคโนโลยีของจีน ในห้วงที่จีน-สหรัฐฯ แข่งขันอิทธิพลกันทุกมิติ
ดังนั้น ชาวจีนจึงเห็นว่า การที่ทางการจีนช่วยเหลือผู้บริหารหัวเว่ยให้ได้รับอิสรภาพได้สำเร็จ ตามที่เมิ่ง หว่านโจวกล่าวหลังเท้าแตะแผ่นดินเกิดว่า “มาตุภูมิจะให้การสนับสนุนเราเสมอ” เป็นชัยชนะทางการเมืองที่จีนเป็นผู้มีชัยเหนือสหรัฐฯ
เมิ่ง หว่านโจว จึงมีสถานะเป็นวีรสตรีของชาติ ผู้ก้าวออกไปสร้างความรุ่งเรืองให้กับจีนในแผ่นดินศัตรู จนถูกศัตรูคุกคามข่มเหง แต่แผ่นดินเกิดก็ช่วยเหลือให้กลับสู่อ้อมกอดของประชาชนได้ในที่สุด
เสียงร้องเพลงชาติจีนจากฝูงชนที่มารอต้อนรับเธอที่สนามบิน ภาพพลุที่จุดขึ้นไปเป็นรูปใบหน้าของเธอเต็มท้องฟ้าในวันชาติจีนเมื่อ 1 ตุลาคม 2564 ภาพพนักงานหัวเว่ยรวมตัวและร้องตะโกนต้อนรับเมื่อเธอกลับไปทำงานครั้งแรกที่สำนักงานใหญ่หัวเว่ยเมื่อ 25 ตุลาคม 2564 ฯลฯ จึงเป็นบรรยากาศของการเฉลิมฉลอง ที่ไม่ได้มีความหมายเป็นเพียงแต่การยินดีกับอิสรภาพของเมิ่ง หว่านโจว แต่ยังมีความหมายไกลไปถึงการฉลองชัยชนะของชาวจีนที่เห็นว่าฝ่ายตนมีชัยเหนือสหรัฐฯ ในศึกยกนี้
ความรักชาติ เป็นอุดมการณ์ที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เน้นย้ำอย่างมากตั้งแต่ขึ้นรับตำแหน่ง เห็นได้จากการหยิบเอา “การฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของจีน” มาเป็นภารกิจหลักที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสีจะต้องฝ่าฟันบรรลุเป้าหมายให้ได้ ประธานาธิบดีสีใช้เครื่องมือหลากหลายในการหล่อหลอมอุดมการณ์ชาตินิยมจนกลายเป็นกระแสหลักของสังคมจีนทุกวันนี้ รวมทั้งวัฒนธรรมร่วมสมัยอย่างภาพยนตร์ ตัวอย่างที่กำลังเป็นที่พูดถึงคือ “The Battle at Lake Changjin” ภาพยนตร์เกี่ยวกับการสู้รบระหว่างทหารจีนกับสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเกาหลี ที่ออกฉายช่วงวันชาติจีน (1 ตุลาคม) ที่ผ่านมา และกลายเป็นภาพยนตร์ที่สร้างรายได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์จีน การใช้ภาพยนตร์แนวชาตินิยมเป็นเครื่องมือสร้างกระแสความภาคภูมิใจในความเป็นชาติในช่วงเทศกาลวันชาติจีน เป็นธรรมเนียมที่จีนทำมาติดต่อกันทุกปี รวมทั้งภาพยนตร์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไทยอย่าง “Operation Mekong” ที่ออกฉายช่วงวันชาติปี 2559 เพื่อเชิดชูความเสียสละ กล้าหาญ และเก่งกาจของตำรวจจีน ในภารกิจตามล่า “หน่อคำ” ราชายาเสพติดแห่งลุ่มน้ำโขง ที่ก่อเหตุปล้นและสังหารลูกเรือชาวจีน 13 ศพ ก่อนทิ้งศพลงแม่น้ำโขงบริเวณสามเหลี่ยมทองคำเมื่อปี 2554
อีกไม่กี่ปีข้างหน้า อาจจะมีภาพยนตร์ชีวประวัติเมิ่ง หว่านโจว เพื่อออกฉายในโอกาสวันชาติจีนเช่นเดียวกัน