หุ้น Facebook หรือ Meta Platform ถูกกระหน่ำเทขายอย่างรุนแรงจนมูลค่าหายไปเกือบ 30% เมื่อต้นกุมภาพันธ์ 2565 จากการชะลอในการเติบโตของบริษัท และการทุ่มเงินลงทุนไปกับกิจการด้านโลกเสมือนจริง (metaverse) มากจนเกินไป โดยยังไม่มีแผนที่เป็นรูปธรรมคลอดออกมาเป็นหลักประกันให้แก่นักลงทุน ทำให้นักลงทุนในตลาดขาดความเชื่อมั่น และกังวลว่าหุ้น Facebook อาจมีแนวโน้มการเติบโต (potential upside) ต่ำลง อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่องผลกระทบจากการแข่งขันแย่งชิงลูกค้าในตลาด Social Media ที่มีทั้ง Twitter, และ Tiktok เข้ามา โดยมีจุดขาย คือ ให้ความสำคัญกับการป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ (fake news) และเอื้อต่อพฤติกรรมการใช้-ผลิตสื่อสมัยใหม่มากกว่า Facebook ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น (Gen Z และ Millennials) เลือกที่จะเข้าหาคู่แข่งทางการตลาดของ Facebook แทน จำนวนผู้ใช้งาน (Daily active users) ของ Facebook จึงทยอยลดลงอย่างเห็นได้ชัดถึงกว่า 1,000,000 คน ภายใน 3 เดือนที่ผ่านมา
อนึ่ง ปัจจุบันราคาหุ้น Facebook ได้ดิ่งทะลุแนวรับสำคัญลงมาแล้วถึง 2 แนวรับ คือ บริเวณ $285-$300 และ $245 ตามลำดับ โดยกำลังชะลอเพื่อเลือกทิศทางอยู่ระหว่างบริเวณแนว $240 และ $220 ซึ่งเคยเป็นแนวต้านสำคัญของราคา Facebook เมื่อช่วงปี 2562-2563 ภาพรวมของหุ้น Facebook ในไตรมาส 1 ปีนี้ จึงค่อนข้างเป็นขาลง เพราะกราฟราคาไม่สามารถขยับขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่สูงกว่าเดิม (higher high) ได้ หลังจากขึ้นไปสัมผัสแนวต้านทางจิตวิทยาที่บริเวณราคา $380 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ (All-Time High) เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว จากกระแสข่าวการพัฒนาระบบนิเวศโลกเสมือนจริง (metaverse ecosystem) ราคาก็ถูกนักลงทุนเทขายอย่างรุนแรงจนหลุดแนวรับที่ $320 และปรากฏให้เห็นการเสียทรงของกราฟราคาขึ้น และตามมาด้วยสัญญาณบ่งชี้สำคัญสำหรับการเข้าสู่ตลาดขาลง คือ การที่ Facebook พยายามกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $360 แล้วไม่ผ่าน จึงเกิดการเคลื่อนที่ของราคาแบบกรอบทแยงลง (descending channel) ตามวงกลมสีเขียวในภาพที่ 1 และตามมาด้วยการทำจุดต่ำสุดจุดใหม่ (lower low) อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นธันวาคมปีที่แล้ว มาจนถึงปลายมกราคมที่ผ่านมาที่ราคาหลุดจากแนวรับ $300 เป็นครั้งแรกในรอบครึ่งปี
นอกจากนี้ เมื่อดูกราฟที่แสดงสถิติแรงซื้อ-แรงขาย (Relative Strength Index: RSI) จะเห็นว่าค่า RSI ของหุ้น Facebook มีการเคลื่อนที่ในลักษณะที่เบาลงเรื่อยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเมษายน 2564 สวนทางกับราคาของ Facebook ที่เพิ่มมากขึ้น จนเกิดสัญญาณสะท้อนการกลับตัวสู่ตลาดขาลง (bearish divergence) มาตลอดปี 2564 ที่ค่า RSI ไม่สามารถขยับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านเส้นสีแดง (ตามภาพที่ 2) ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว และหลังจากกระแสข่าวการสร้างแพลตฟอร์ม Metaverse ของ Facebook กระจายสู่สาธารณะ แรงขายหุ้น Facebook ก็มีโถมเข้ามามากขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกราฟ RSI ไม่สามารถยืนเหนือค่า 50 ได้เลย หุ้น Facebook จึงเป็นสินทรัพย์ที่ไม่เหมาะแก่การลงทุนในระยะยาว เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณที่บ่งชี้ว่าราคาจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้อีกในเร็วๆนี้ โดยหากแนวรับที่บริเวณ $220 ถูกแรงขายจากนักลงทุนในตลาดเทจนทะลุลงไป ราคาหุ้น Facebook อาจดิ่งลงไปได้อีก 20-30% จนถึงบริเวณแนวรับที่ $150
อย่างไรก็ดี สำหรับนักลงทุนระยะสั้น และนักเก็งกำไรในตลาดตราสารอนุพันธ์ (derivatives) นั้น บริเวณแนวรับที่ $220 และ $240 นี้ถือเป็นแนวรับที่น่าสนใจ หากหุ้น Facebook ไม่ถูกแรงเทขายจนหลุดแนวรับเหล่านี้ภายในกลางกุมภาพันธ์ อาจมีการฟื้นตัวของราคาในระยะสั้น (rebound) ให้เห็นได้ จากคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่นักลงทุนในตลาดตั้งรอช้อนซื้อไว้บริเวณแนวรับสำคัญ ทำให้มีการปฏิเสธราคาขึ้นบนกราฟ เพื่อจะขึ้นกลับไปแตะแนวต้านย่อยบริเวณ $260-$280 ก่อนจะปรับตัวลงต่อตามกระแสของตลาดในภายหลัง
***บทความนี้เป็นบทความสรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงินและตลาดทุนฯลฯ ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน The Intelligence มีข้อพิจารณาว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน ก่อนตัดสินใจลงทุน***