การทะลุแนวต้านออกมาอยู่เหนือกรอบสามเหลี่ยมของราคาทองคำที่บริเวณ $1,850 ต่อทรอยออนซ์ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา จากผลกระทบที่เกิดจากข่าวการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐฯ และการประกาศสงครามของรัฐบาลรัสเซีย-ยูเครน เป็นจุดที่ยืนยันการกลับมาเป็นตลาดขาขึ้นของทองคำอีกครั้ง หลังเข้าสู่ช่วงพักตัวนานเกือบ 2 ปี เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดมีความตื่นตระหนก แล้วได้ตัดสินใจเทขายสินทรัพย์เสี่ยงของตนเองทิ้ง ทั้งหุ้น สัญญาการเก็งกำไรในตลาด Futures ค่าเงินต่างประเทศ และ Cryptocurrency เพื่อนำเงินไปพักไว้ในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ และโลหะมีค่า (precious metals) ชนิดต่าง ๆ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ตลาดขาขึ้นพร้อม ๆ กันในตลาดโลหะมีค่าอย่างต่อเนื่องมาตลอดเดือนกุมภาพันธ์ นำโดยทองคำ (XAUUSD) ที่สามารถทะลุแนวต้านเส้นสีดำขึ้นมายืนเหนือบริเวณราคา $1,910 (ตามภาพที่ 1) ได้ในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2565 ตามด้วยแร่เงิน (XAGUSD) ทองคำขาว (XPTUSD) และแร่พัลลาเดียม (XPDUSD) ที่ทยอยปรับราคาขึ้นตามทองคำ ควบคู๋ข่าวปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย
จากการเคลื่อนที่ของกราฟในปัจจุบันที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเพียง 1 เดือน สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการทองคำในปริมาณมหาศาล และสามารถทะลุผ่านทุกแนวต้านทั้งเส้นสีม่วงบริเวณ $1,970 และเส้นสีเทาที่ $2,000 ได้ภายในเพียง 2 สัปดาห์ โดยยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปได้เรื่อย ๆ จนถึงแนวต้านเส้นสีส้ม (ตามภาพที่ 1) บริเวณ $2,080 ซึ่งเป็นแนวต้านเดิมจากช่วงกลางปี 2563 หากความตื่นตระหนกจากภัยสงครามยังไม่ทุเลาลง สิ่งที่พึงตระหนักคือ ในอดีต ช่วงที่ทองคำพุ่งเข้ามาใกล้แนวต้านสีส้มดังกล่าวนี้ เกิดปรากฏการณ์เทขายทองคำอย่างรุนแรงจนราคาร่วงลงไปอยู่ต่ำกว่าโซน $1,900 ทำให้มีผู้ขาดทุนจากการเข้าซื้อทองคำที่ราคาบริเวณ $2,050 จำนวนมาก การที่ราคาทองคำจะขึ้นไปแตะโซน $2,080 หรือ $2,070 แล้วย่อลงทันทีจึงมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง เนื่องจากผู้ที่เคยซื้อทองคำในราคาขาดทุนเมื่อปี 2563 จะรีบเทขายทองคำที่ตนเองซื้อมาทิ้งเพื่อดึงเงินคืนจากตลาด โดยหากเกิดสถานการณ์ดังกล่าวจริง ราคาทองคำอาจย่อลงมาที่บริเวณ $1,970 โดยมีโซน $1,850 เป็นแนวรับประจำตลาดขาขึ้นรอบนี้ แล้วพยายามพุ่งกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน $2,080 อีกครั้งในอนาคต
สำหรับมุมมองจากเครื่องมือวัดแรงซื้อ-ขาย (RSI) จะเห็นได้ว่ากราฟค่า RSI ของทองคำนั้นได้ทะลุแนวต้านกรอบสามเหลี่ยมสีดำ (ตามภาพที่ 2) ออกมาอยู่เหนือโซนค่า 70 ได้ในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมาสำเร็จแล้ว หลังจากทดสอบแล้วไม่ผ่านเมื่อช่วงพฤศจิกายนปี 2564 ทั้งนี้ ยังไม่ปรากฏสัญญาณการกลับตัวสู่ตลาดขาลงบนกราฟ RSI ในขณะนี้ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าราคาทองคำจะยังสามารถขึ้นต่อไปได้อีก แม้ในช่วงกลางมีนาคม อาจจะมีการย่อลงของราคาตามการเคลื่อนที่ของกราฟ RSI ที่ไม่สามารถผ่านแนวต้านค่า 90 และกราฟราคาที่ถูกแนวต้านเส้นสีส้มบริเวณ $2,080 เป็นกำแพงขวางไว้ จนไม่สามารถผ่านได้ในการทดสอบครั้งแรก โดยการย่อลงของกราฟ RSI ในครั้งถัดไปนี้ไม่ควรย่อลงต่ำเกินกว่าแนวรับเส้นสีแดง (ตามภาพที่ 2) บริเวณค่า 65-67 ซึ่งเป็นแนวรับตลาดขาขึ้น และไม่ควรหลุดลงไปเกินกว่าค่า 54 (หรือแนวรับเส้นสีน้ำเงิน) เพราะเป็นบริเวณที่นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดมองไว้ว่าเป็นแนวรับสำคัญ และเป็นจุดสำหรับช้อนซื้อทองคำโดยคาดหวังให้ราคากลับตัวพุ่งขึ้นต่อ โดยสรุป ภาพรวมของกราฟทองคำยังคงเป็นบวก และอาจจะยังคงแนวโน้มขาขึ้นนี้ไว้ได้จนถึงปลายเดือนมีนาคม
***บทความนี้เป็นบทความสรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงินและตลาดทุนฯลฯ ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน The Intelligence มีข้อพิจารณาว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน ก่อนตัดสินใจลงทุน***