ในแวดวงของกลุ่มนักลงทุนสายเก็งกำไร ทั้ง Future และ Binary option นั้น ส่วนใหญ่แล้วหากว่างเว้นจากการเทรดค่าเงินต่างประเทศ มักจะหันไปที่ดัชนี US30 หรือ Wall Street 30 ซึ่งเป็นดัชนีที่ใช้สะท้อนภาพรวมของหุ้น 30 ตัว จากบริษัทที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ หรือจะให้กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ ดัชนี US30 นี้ เป็นเครื่องมือวัดอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีรูปแบบการเคลื่อนที่ของราคาที่ชัดเจนค่อนข้างสูง และมีอัตราการสวิงของราคาที่ต่ำ ดังนั้นจึงง่ายสำหรับผู้ที่เป็นนักลงทุนระยะสั้น เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ตัวอื่นๆในวงจรของตลาดเก็งกำไร เพราะเข้าซื้ออย่างไรก็มีโอกาสที่ราคาจะพุ่งขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้จากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่ดัชนี US30 เข้าสู่ตลาดขาลงอย่างกะทันหันจากสถานการณ์ของไวรัส COVID-19 ระบาดแล้วนำไปสู่การล็อคดาวน์ในหลาย ๆประเทศทั่วโลก แต่เมื่อสถานการณ์ทุเลาลง และรัฐบาลหลายๆแห่งเริ่มเปิดประเทศเพื่อจะทำให้ COVID-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่นมากขึ้น ดัชนี US30 จึงฟื้นตัว และมีแรงซื้อจากนักลงทุนเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด
ในทางเทคนิคจะเห็นได้ชัดว่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาดัชนี US30 มีการเคลื่อนที่ในลักษณะสามเหลี่ยมปากเปิด (expanding triangle) ระหว่างแนวรับเส้นสีน้ำเงินที่โซนราคา $33,873.2 และเส้นสีม่วงที่ $36,392.5 (ตามภาพที่ 1) โดยมีความพยายามจะทะลุแนวต้านเส้นสีม่วงถึง 3 ครั้งในช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา แต่ไม่สำเร็จ จึงถูกเทขายอย่างรุนแรง จนมีการปิดแท่งแบบไส้เทียนหลุดลงไปต่ำกว่าแนวรับเส้นสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนทิศทางตลาด ทำให้นักลงทุนจำนวนมากตัดสินใจยอมเทขายทันทีหลังจากกราฟราคาพยายามขึ้นไปทดสอบ (rebound) แนวต้านเส้นสีส้มที่ $35,617.7 ราคาจึงร่วงมาที่แนวรับเส้นสีแดง $32,175.6 ก่อนเข้าสู่สภาวะไร้ทิศทางในช่วงกุมภาพันธ์-มีนาคม ตามกรอบระหว่างแนวรับเส้นสีแดงและเส้นสีน้ำเงิน สิ่งที่น่าติดตามในขณะนี้ คือ ความเป็นไปได้ที่ตลาดขาลงสำหรับดัชนี US30 กำลังจะเริ่มขึ้น หากกราฟราคาไม่สามารถพุ่งกลับเข้าไปอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมปากเปิดได้ตามเดิมภายในช่วงต้นของไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 อาจมีแรงเทขายแทรกเข้ามาแล้วลากกราฟราคาหลุดลงไปต่ำกว่าแนวรับเส้นสีแดงในไตรมาสดังกล่าว
สำหรับแนวโน้มที่ปรากฏขึ้นในเครื่องมือวัดปริมาณแรงซื้อ-แรงขาย (RSI) ขณะนี้จะเห็นได้ว่าค่า RSI ของดัชนี US30 ได้หลุดออกจากแนวรับตลาดขาขึ้นที่สวิงภายในกรอบเส้นทแยงสีแดง (ตามภาพที่ 2) มาแล้วเมื่อช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 และเริ่มเข้าสู่การเคลื่อนที่แบบสามเหลี่ยมในกรอบสีดำเมื่อช่วงไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปีดังกล่าว ที่สะท้อนให้เห็นถึงแรงซื้อที่ต่ำลงและแทนที่ด้วยแรงขายที่รุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี แรงขายเหล่านั้นเริ่มมีปริมาณที่เบาลงในช่วงกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา จนเกิดความไม่สัมพันธ์กันของกราฟราคาที่ยังมีการทำจุดที่ต่ำกว่าเดิม (lower low) อย่างต่อเนื่องกับกราฟค่า RSI ที่พยายามยกจุดดังกล่าวขึ้น (higher low) ซึ่งเป็นสัญญาณการกลับตัวของราคารูปแบบหนึ่ง (bullish divergence) แต่ในชั้นนี้ยังไม่สามารถตั้งข้อสรุปได้อย่างชัดเจน เนื่องจากต้องรอการยืนยันจากกราฟ RSI ให้สามารถผ่านขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านบริเวณค่า 50 และแนวต้านกรอบสามเหลี่ยมสีดำ (confluence zone) หรือไม่หลุดลงไปต่ำกว่าค่า 30-35 บนกราฟ RSI ก่อน
***บทความนี้เป็นบทความสรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงินและตลาดทุน ฯลฯ ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน The Intelligence มีข้อพิจารณาว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน ก่อนตัดสินใจลงทุน***
