กาตาร์กำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลโลก หรือ FIFA World Cup Qatar 2022 ระหว่าง 20 พฤศจิกายน – 18 ธันวาคม 2565 ซึ่งถือว่าเป็นการจัดการแข่งขันกีฬาครั้งใหญ่และสำคัญ เพราะคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวและแฟนบอลโลกเดินทางไปกาตาร์เพื่อเข้าชมการแข่งขันจำนวนมากกว่าล้านคน รวมทั้งการจัดการแข่งขัน FIFA World Cup จะเป็นบทพิสูจน์ว่ากาตาร์จะพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติขนาดใหญ่อย่างกีฬาโอลิมปิก ในปี 2575 ตามที่กาตาร์คาดหวังได้หรือไม่
แม้ว่าจะเป็นประเทศขนาดเล็กในตะวันออกกลาง และมีประชากรอยู่ที่ประมาณ 2.9 ล้านคน แต่รัฐบาลกาตาร์ต้องการขยายบทบาทและชื่อเสียงของกาตาร์ให้โดดเด่นในภูมิภาคและเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น นอกเหนือจากบทบาทการเป็นตัวกลางการเจรจาระหว่างคู่ขัดแย้งประเทศต่าง ๆ (ซึ่งกาตาร์ทำได้ดีอย่างมากมาโดยตลอด) โดยเมื่อปี 2563 กาตาร์แข่งกับสหรัฐฯ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและออสเตรเลียเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 และหลังจากที่ได้เป็นประเทศแรกในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก กาตาร์ก็เร่งเตรียมพร้อมกับการจัดการแข่งขันกีฬาครั้งนี้ โดยมีการสร้างสเตเดียมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลเพิ่มเป็น 8 แห่ง สร้างอาคารที่พักหลายรูปแบบเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมากขึ้น รวมทั้งทบทวนกฎระเบียบต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับหลักศาสนาและประเพณีที่ค่อนข้างเคร่งครัดของชาวกาตาร์ รวมทั้งให้สมดุลกับความสนุกสนานของแฟนบอลที่จะไปร่วมชมการแข่งขันกีฬา เช่น การจำกัดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในบางพื้นที่เท่านั้น
ย้อนกลับไปดูว่า ทำไมกาตาร์ที่ร่ำรวยเงินทองจากการขายน้ำมันและพลังงานอยู่แล้ว รวมทั้งยังมีชื่อเสียงจากการเป็นศูนย์กลางการเดินทางของโลก ตลอดจนมีบทบาทที่ดีในการเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้มีการเจรจาระหว่างประเทศที่มีปัญหาขัดแย้งกัน …แล้วทำไม? กาตาร์จึงอยากจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ หรือเป็นผู้จัด event ใหญ่ ๆ อีก ทั้งที่อาจจะสร้างความท้าทายด้านความมั่นคง การตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย และอาจทำให้ข้อกำหนดที่เคร่งครัดตามหลักศาสนาของกาตาร์ถูกนำไปวิพากษ์วิจารณ์ได้อีกด้วย
เหตุผลหลัก ๆ อาจจะอยู่ในนโยบายต่างประเทศของกาตาร์ ที่นอกจากจะเน้นการเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้กับการเจรจาระหว่างประเทศแล้ว กาตาร์อาจจะอยากเป็นที่รู้จักในมุมของการท่องเที่ยวและการเป็นจุดกลางของภูมิภาคตะวันออกกลางมากขึ้น ซึ่งการเตรียมพร้อมจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นโอกาสให้กาตาร์ได้ทุ่มเทพัฒนาสิ่งปลูกสร้างและอาคารใหม่ ๆ ขึ้นมากมาย (มีรายงานว่าส่วนใหญ่เป็นความร่วมมือระหว่างกาตาร์กับจีน ซึ่งอยู่เบื้องหลังโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในกาตาร์ช่วงนี้) ได้ใช้โอกาสนี้เผยแพร่วัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวของกาตาร์ รวมทั้งการเตรียมพร้อมพัฒนาเมือง ตลอดจนระบบสาธารณูปโภคให้พร้อมรับกับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
ทั้งหมดนี้เป็นผลดีต่อการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในกาตาร์ พร้อมทั้งเอื้อให้กาตาร์เตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จากการพึ่งพาการส่งออกน้ำมันพลังงาน ไปเป็นการท่องเที่ยวและการดำเนินธุรกิจในกาตาร์มากขึ้นก็เป็นไปได้ เหมือนที่หลาย ๆ ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางเริ่มดำเนินการ เนื่องจากได้รับบทเรียนจากช่วงที่ราคาน้ำมันเคยตกต่ำและผันผวน
การจัดฟุตบอลโลกครั้งนี้จึงอาจคุ้มค่าสำหรับกาตาร์ แม้ยังเผชิญความท้าทายในการจัดการบางอย่าง เช่น เรื่องจำนวนเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ที่ปัจจุบันไม่เพียงพอต่อการรักษาความปลอดภัยและความเรียบร้อยในช่วงที่มีการจัดการแข่งขัน จนรัฐบาลกาตาร์ต้องประกาศเมื่อ กันยายน 2565 เปิดรับประชาชนเข้าเป็นอาสาสมัครรักษาความปลอดภัย ทำให้กาตาร์ต้องเตรียมตัวอีกมาก
…แต่การจัดฟุตบอลโลกอาจเป็นโอกาสให้กาตาร์ได้พิสูจน์ให้ประชาคมระหว่างประเทศเห็นว่า กาตาร์มีข้อดีที่หลากหลาย มี soft power และมีความพร้อมที่จะต้อนรับประชาคมระหว่างประเทศ รวมทั้งเป็นโอกาสให้กาตาร์ลองปรับภาพลักษณ์จากประเทศที่เคร่งครัดอย่างมากให้ดูผ่อนคลายเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยยังสามารถรักษาขนบธรรมเนียมที่สำคัญเอาไว้ได้
ซึ่งหากทุกอย่างราบรื่นตามที่วางแผนไว้ ไม่แน่ว่ากาตาร์จะประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นในอนาคต ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งัขนกีฬาโอลิมปิกอีกในปี 2575 ก็เป็นไปได้
———————————————————————