รัฐบาลประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดนของสหรัฐฯเผยแพร่ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ หรือ National Security Strategy (ย่อว่า NSS) ฉบับใหม่เมื่อ 12 ตุลาคม 2565 เป็นยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติอย่างเป็นทางการฉบับแรกของประธานาธิบดีไบเดน เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯ มีเป้าหมายเดียวกัน คือ “ทำให้สหรัฐฯ มั่นคง มั่งคั่ง และเป็นผู้นำโลกอันดับหนึ่งตลอดกาล”………
เป้าหมายดังกล่าวไม่ได้เขียนไว้อย่างชัดเจนในยุทธศาสตร์…แต่เมื่ออ่านดูดี ๆ ก็จะเห็นคำว่า America Leadership ถูกพูดถึงอยู่ทั้งฉบับ ไม่ว่าจะเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยี ผู้นำด้านการรักษาระเบียบโลก ผู้นำด้านประชาธิปไตย ผู้นำด้านสาธารณสุข ผู้นำด้านการข่าวกรอง และผู้นำด้านการทหาร ดังนั้น มุมมองในประเด็นที่1…ที่เราอ่านยุทธศาสตร์ฉบับนี้และเห็นว่ารัฐบาลไบเดนให้ความสำคัญมาก ๆ ก็คือ สหรัฐฯ ยังต้องการเป็นผู้นำโลกในทุก ๆ ด้านต่อไป
ประเด็นที่ 2 ผู้จัดทำยุทธศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐฯ มองว่า สถานการณ์ความมั่นคงโลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงและผันผวน โดยมี การแข่งขันระหว่างประเทศมหาอำนาจ เป็นประเด็นที่สำคัประเด็นที่ 2 และแทบจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ มากที่สุด ซึ่งมุมมองนี้เป็นการประเมินที่ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ จากการแข่งขันกับมหาอำนาจอื่น ๆ โดยเฉพาะจีนและรัสเซีย ที่ปัจจุบันเป็นทั้งคู่แข่งและคู่ขัดแย้งในหลาย ๆ ด้าน
แม้ว่าสหรัฐฯ จะแข่งขันกับมหาอำนาจต่าง ๆ แต่สหรัฐฯ ก็ย้ำ(มุมมองในประเด็นที่3)ว่า ความร่วมมือกับพันธมิตรและหุ้นส่วนเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย เพราะแม้ว่าอเมริกายังคงเป็นผู้นำโลกอันดับที่หนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาท้าทายด้านความมั่นคงได้ด้วยกำลังของตัวเองเพียงลำพัง ดังนั้น รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนจะให้ความสำคัญกับการเชื่อมความสัมพันธ์ เพิ่มความร่วมมือ และรักษาความเป็นมิตรกับประเทศต่าง ๆ ต่อไป ซึ่งไทยเองก็ถือว่าเป็น 1 ในประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่น่าจะได้เพิ่มความร่วมมือกันในหลาย ๆ เรื่อง
แล้วเป้าหมายของสหรัฐฯ คืออะไร? ซึ่งมองว่าเป็นประเด็นที่ 4 นั้นคือประเด็นที่ระบุไว้ในยุทธศาสตร์ฉบับนี้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ มีเป้าหมาย 3 เรื่อง คือ รักษาความมั่นคงปลอดภัยของชาวอเมริกัน เสริมสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ และทำให้ค่านิยมประชาธิปไตยแข็งแกร่ง ทั้ง 3 เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผู้นำสหรัฐฯ เกือบทุกยุคสมัยเน้นย้ำและให้ความสำคัญ เพราะอะไรจะสำคัญไปกว่าการทำให้ชาวอเมริกันมั่นใจว่า รัฐบาลกำลังปกป้องพวกเขาอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะพัฒนาเศรษฐกิจให้มั่งคั่งด้วย…เท่ากับว่าภาษีของชาวอเมริกันที่เสียไปให้รัฐบาล ก็จะเป็นประโยชน์ต่อความปลอดภัยของชาวอเมริกันเองทั้งนั้น
การที่สหรัฐฯ ย้ำการ….ปกป้องประชาธิปไตย… ก็เป็นอีกประเด็น(ที่ 5)นึงที่สำคัญไม่น้อย และมีนัยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุบุกรุกอาคารรัฐสภาเมื่อปี 2564 รวมทั้งข่าวสารเกี่ยวกับการแทรกแซงการเลือกตั้ง ชาวอเมริกันมองว่าประชาธิปไตยในสหรัฐฯ เสื่อมถอย ขณะเดียวกัน ค่านิยมประชาธิปไตยเกือบใช้ไม่ได้ผลสำหรับสหรัฐฯ ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ เพราะประเทศอื่น ๆ อาจเลือกร่วมมือกับมหาอำนาจที่ไม่ได้ใช้ค่านิยมทางการเมืองเป็นเงื่อนไขมากกว่า ดังนั้น รัฐบาลชุดนี้จะดำเนินการทุกทางเพื่อให้ค่านิยมประชาธิปไตยกลับมาได้รับการยอมรับและสร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองคืนให้กับชาวอเมริกันอีกครั้ง
แล้วสหรัฐฯ จะดำเนินการยังไงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทั้ง 3 เรื่อง?
NSS กำหนดแนวทางมุ่งสู่เป้าหมายด้วยการจะลงทุนทุกด้านเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งภายในประเทศ สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรและหุ้นส่วน และท้ายที่สุด คือ อัพเกรดให้เครื่องมือในการดำเนินนโยบายของสหรัฐอเมริกาทันสมัย โดย NSS ฉบับนี้ค่อนข้างให้น้ำหนักไปที่การพัฒนาด้านการทหาร รวมทั้งการทูต เศรษฐกิจ และการพัฒนา
ส่วนท้าย ๆ ของเอกสาร NSS คือ บทสรุป ซึ่งน่าสนใจไม่น้อย เพราะรัฐบาลสหรัฐฯ คาดการณ์ไปถึงอนาคตไว้เลยว่า (มุมมองประเด็นที่ 6) รัฐบาลสหรัฐฯ จะดำเนินการได้ตามเป้าหมายและประสบความสำเร็จในการรักษาความมั่นคง รวมทั้งจะทำให้อเมริกาเป็นผู้นำโลกในทุก ๆ ด้านได้ต่อไป เรามองว่า ข้อความในบทสรุปอาจเป็น hidden message ที่โน้มน้าวชาวอเมริกันและชาวโลกอย่างโจ่งแจ้งที่สุดแล้วว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะทำเพื่อผลประโยชน์ของชาวอเมริกันให้มากที่สุด ขอให้ชาวอเมริกันเชื่อใจ ………และขอให้ชาวโลกเชื่อด้วยว่าอเมริกาจะเป็นผู้นำโลก
ประเด็นสุดท้ายที่สำคัญมาก ๆ ประเด็นที่ 7 เกี่ยวกับการเผยแพร่ NSS คือ กระแสตอบรับยุทธศาสตร์ดังกล่าวจากนักวิชาการและสื่อต่างประเทศ เพราะการเผยแพร่ยุทธศาสตร์ความมั่นคงอย่างเปิดเผยแบบที่ใครที่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถเข้าไปอ่านได้ของสหรัฐฯ ในอีกมุมหนึ่งก็………..เป็นการสื่อสารให้ประเทศอื่น ๆ เชื่อว่าสหรัฐฯ จะดำเนินนโยบายตามยุทธศาสตร์นั้นจริง ๆ ดังนั้น การที่สหรัฐฯ ระบุว่าจะแข่งขันกับจีนในทุกมิติ รวมทั้งย้ำถึงการแข่งขันระหว่างโลกเสรีและโลกเผด็จการ ก็ทำให้สื่อจีนมองว่า ยุทธศาสตร์ฉบับนี้ยังหนีไม่พ้นแนวคิดแบ่งโลกตามอุดมการณ์ทางการเมืองในยุคสงครามเย็น และการที่อเมริกาจะเน้นพัฒนายุทโธปกรณ์ให้มีความทันสมัย ก็เท่ากับเพิ่มความเสี่ยงด้านความมั่นคงให้สันติภาพโลกมากขึ้น และนอกจากกระแสตอบรับของสื่อจีน นักวิชาการสหรัฐฯ บางส่วนก็ออกมาวิจารณ์ NSS ฉบับนี้ว่า ไม่ได้กำหนด priority หรือขั้นตอนที่สหรัฐฯ จะดำเนินการเป็นอันดับแรก ๆ รวมทั้งไม่ได้ประเมินไว้ว่าสหรัฐฯ ยังขาดอะไรเพื่อรับมือกับภัยคุกคามต่าง ๆ ดังนั้น ยุทธศาสตร์ฉบับนี้จึงถูกวิจารณ์ว่าอาจไม่สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้จริง
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเนื้อหาและประเด็นบางส่วนที่เราหยิบมาจากยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ไม่ว่าเนื้อหานี้จะเป็นความพยายามชี้นำความคิดของชาวอเมริกันหรือต่างประเทศหรือไม่ และไม่ว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ที่ดีหรือไม่ดีพอ… อย่างน้อยการจัดทำ NSS ฉบับนี้ก็คงทำให้เราเห็นความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะปรับเปลี่ยนแนวทาง ตลอดจนเครื่องมือในการดำเนินนโยบาย และอัพเดตมุมมองต่อสถานการณ์ความมั่นคงโลกเสมอ เพราะ VUCA World หรือโลกที่มีภาวะ Volatility,Uncertainty,Complexity และ Ambiguity ทำให้มหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ เองต้องตื่นตัว และมีความรับผิดชอบที่จะเผยแพร่ยุทธศาสตร์ให้ประชาชนรับรู้ว่าสหรัฐฯ กำลังจะมุ่งหน้าไปทางไหน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย “ทำให้สหรัฐฯ มั่นคง มั่งคั่ง และเป็นผู้นำโลกอันดับหนึ่งตลอดกาล”…หรือนานที่สุดเท่าที่จะทำได้
——————————————