ประเด็นความมั่นคง (security) หรือสิ่งที่เรากำหนดให้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและความอยู่รอดของประชาชน รัฐบาล และอธิปไตยของชาติ ในบางครั้งก็เป็นเรื่องที่ถูกประกอบสร้างขึ้น (construct) หรือกำหนดไว้เพื่อเป้าหมายทางการเมือง ผลประโยชน์แห่งชาติ และสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคม
ดังนั้น ในสาขาวิชาความมั่นคงระหว่างประเทศ หรือ International Security จึงได้มีข้อสรุปหนึ่งว่า “ความมั่นคง” นั้นเป็นประเด็นที่เปลี่ยนแปลงได้ตามยุคสมัย ตามสังคม หรือแม้กระทั่งตามผู้นำ และเพราะความมั่นคงเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลง และลื่นไหลได้นั้น ทำให้เราได้เห็นสิ่งที่นักวิชาการเรียกว่า ความมั่นคงรูปแบบเก่า รูปแบบใหม่ และหน้าตาของภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของความมั่นคงในต่างเวลา สถานที่ และมุมมองของผู้คนเช่นกัน
ที่ผ่านมาเราจะเห็นตัวอย่างที่ชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศที่มีความเปลี่ยนแปลงและลื่นไหลไปมาตามยุคสมัยและตามผู้ที่ถืออำนาจอยู่ เช่น หลังเหตุวินาศกรรม 9/11 การก่อการร้ายได้ขยับตัวไปเป็นประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศ และเป็นภัยคุกคามร่วมกันของประเทศตะวันตก นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ประเด็นสาธารณสุขขยับจากการเป็นประเด็นประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสาธารณะไปเป็นประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศ
…นี่คือ ตัวอย่างง่าย ๆ ของกระบวนการ securitization หรือทำให้ประเด็นใดประเด็นหนึ่งกลายเป็นเรื่อง “ความมั่นคง” โดยผู้มีบทบาทสำคัญ คือ รัฐบาลหรือผู้ครองอำนาจในการประกาศว่าเรื่องใดจะเป็นเรื่องความมั่นคงของสังคมนั้น ๆ ซึ่งการที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องไหนขึ้นมา ในความรู้สึกของประชาชนมันก็ดูจะเป็นเรื่องจริงจัง สมควรได้รับความสนใจ ความร่วมมือ และจัดสรรงบประมาณไปเพื่อดำเนินการให้รัฐสามารถดำเนินนโยบายด้านความมั่นคงเหล่านั้นได้
อย่างไรก็ดี บทความนี้จะมาชวนดูปรากฏการณ์ย้อนกลับของการสร้างประเด็นความมั่นคง หรือ “de-securitization” เพราะเรื่องใดถูกยกให้เป็นประเด็นความมั่นคงที่สำคัญในช่วงเวลาหนึ่งได้ ก็สามารถถูกลดระดับความสำคัญได้เช่นเดียวกัน
กรณีที่เกิดขึ้น คือ ออสเตรเลียปรับเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงอันดับต้น ๆ ของประเทศ จากเดิมที่เคยให้ความสำคัญอย่างมากกับการปกป้องความมั่นคงออสเตรเลียจากการก่อการร้าย แต่เมื่อ 28 พฤศจิกายน 2565 นาย Mike Burgess ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองออสเตรเลีย (Australian Security Intelligence Organization-ASIO) ประกาศปรับถ้อยคำเกี่ยวกับการประมาณการณ์ภัยคุกคามจากการก่อการร้ายต่อมาตุภูมิออสเตรเลีย โดยลดระดับความเสี่ยงลง ด้วยการเปลี่ยนจากคำว่า “probable” เป็น “possible” ว่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุก่อการร้ายในออสเตรเลีย
…เมื่อดูเผิน ๆ นี่อาจจะดูเป็นการเปลี่ยนคำในถ้อยแถลงของ ASIO เฉย ๆ แต่การเปลี่ยนคำที่ระบุถึงระดับความอันตรายของภัยคุกคามนี้แหละที่เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย เพราะเมื่อ 8 ปีก่อนหน้านี้ ออสเตรเลียให้ความสำคัญกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงจากกลุ่มก่อการร้ายสากลเป็นอันดับต้น ๆ มาโดยตลอด ยิ่งช่วงที่มีการขยายตัวของกลุ่ม Islamic State (IS) เมื่อปี 2557 ทำให้ออสเตรเลียเรียกได้ว่าตื่นตัวและจริงจังกับการต่อต้านการก่อการร้ายอย่างมาก เพราะนอกจากจะตกเป็นเป้าหมายโจมตีแล้ว ยังมีรายงานว่าชาวออสเตรเลียจำนวนมากไปเข้าร่วมกับกลุ่ม IS ด้วย
การประเมินการก่อการร้ายของ ASIO มีทั้งหมด 5 ระดับ เรียงจากมาก-ไปน้อย ได้แก่ Certain, Expected, Probable, Possible และ Not expected
การเปลี่ยนมุมมองต่อความมั่นคงดังกล่าวไม่ได้หมายถึงออสเตรเลียไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการก่อการร้าย หรือว่าก่อการร้ายมัน out ไปแล้ว เพราะ ASIO ย้ำว่า รูปแบบของการก่อการร้ายเปลี่ยนไปจากเดิม โดยปัจจุบันมีความเสี่ยงจากผู้ก่อเหตุเพียงลำพัง รวมทั้งเยาวชน และยังมีความท้าทายจากกลุ่มที่นิยมความรุนแรงสุดโต่งและชาตินิยมด้วย อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ก่อเหตุในออสเตรเลียลดลงอย่างมาก รวมทั้งยังไม่มีสัญญาณว่าจะเกิดการก่อเหตุก่อการร้ายขนาดใหญ่ ต่อจากนี้ ASIO จึงจะให้ความสำคัญกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากการจารกรรมข้อมูลและการแทรกแซงกิจการภายในโดยประเทศคู่แข่งมากขึ้น และเมื่อไหร่ก็ตามที่การก่อการร้ายกลับไปเพิ่มจำนวนหรือเป็นภัยคุกคาม ASIO ก็พร้อมจะปรับเพิ่มการประเมินภัยคุกคามดังกล่าวเช่นกัน
ASIO ชี้แจงด้วยว่า การปรับมุมมองครั้งแรกในรอบหลายปี เป็นผลจากการที่หน่วยข่าวกรองออสเตรเลียมีศักยภาพในการเฝ้าระวัง ยับยั้ง และต่อต้านการก่อการร้ายมากขึ้น ขณะที่จำนวนการก่อเหตุของกลุ่มที่มีแนวคิดฝักใฝ่กลุ่มก่อการร้ายสากลในออสเตรเลียก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง (เหตุการณ์ส่วนมากเกิดจากกลุ่มที่มีแนวคิดหัวรุนแรงชาตินิยมด้วยซ้ำไป) และตอนนี้กลุ่ม IS ในตะวันออกกลางก็นับว่าอ่อนแอลงค่อนข้างมากถ้าเทียบกับเมื่อปี 2557
อาจเรียกได้ว่า ศักยภาพของหน่วยข่าวกรองออสเตรเลียที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับบทบาทของกลุ่มก่อการร้ายสากลที่น้อยลงในดินแดนแห่งนี้ และความเชื่อมั่นของผู้นำประเทศต่อหน่วยข่าวกรองที่ออกมาสนับสนุนการประเมินของ ASIO ในเรื่องนี้ ทำให้โลกได้เห็นความเปลี่ยนแปลงมุมมองของออสเตรเลียต่อประเด็นความมั่นคงไปแล้วระดับหนึ่ง …สะท้อนให้เห็นว่า ประเด็นความมั่นคงที่อาจเคยได้รับความสำคัญมาก ๆ ในระยะเวลาหนึ่ง อาจเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้น ความมั่นคงจึงเป็นสิ่งที่ลื่นไหล ขณะเดียวกันสิ่งที่น่าติดตามต่อไปคือการยกระดับขีดความสามารถของหน่วยความมั่นคงออสเตรเลียเพื่อป้องกันความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งชาติจากภัยคุกคามจากการแทรกแซงของต่างชาติ ที่ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นประเด็นความมั่นคงสำคัญสูงสุดในปัจจุบัน
————————————————————————–