องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (Interpol) เตรียมหาวิธีบังคับใช้กฎหมายในโลกเสมือนจริง หรือเมตาเวิร์ส (Metaverse) ซึ่งการก่ออาชญากรรมในโลกเสมือนจริงใช้วิธีการคุกคามทางเพศด้วยวาจา โดยอาชญากรอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการก่ออาชญากรรม ประกอบกับช่องว่างทางกฎหมายที่ยังไม่มีการบังคับใช้ในเมตาเวิร์ส
เมตาเวิร์ส คือ สภาพแวดล้อมเสมือนจริงบนพื้นที่ดิจิทัลที่ใช้ตัวละครสามมิติ (3D avatars) แทนตัวตนจริงในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การดูหนัง ดูคอนเสิร์ต เรียน ประชุม ซื้อขายสินค้า เล่นเกม เป็นต้น โดยอาศัยการใช้ความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality – VR) เทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริง (Augmented Reality – AR) ที่ผสมผสานระหว่างสภาพแวดล้อมในโลกจริง สภาพแวดล้อมดิจิทัล รวมถึงการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยีที่ใช้ในการสวมใส่ (Extended Reality – XR)
ปัจจุบันเมตาเวิร์สเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แม้แต่องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ ก็ได้สร้างเมตาเวิร์สขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้เข้าร่วมฝึกอบรมหรือเข้าร่วมการประชุมออนไลน์ แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจะใช้ในเชิงสันทนาการมากกว่า ซึ่งในโลกเมตาเวิร์สนั้นอาจมีการก่ออาชญากรรมขึ้น เพียงแต่ไม่รู้ว่าการกระทำนั้นเป็นอาชญากรรมหรือไม่ เพราะความหมายของอาชญากรรมในความเป็นจริงกับเมตาเวิร์สนั้นไม่อาจใช้ร่วมกันได้ ซึ่งการก่ออาชญากรรมในเมตาเวิร์สนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นทางวาจา
โดยฝ่ายสืบสวนของ BBC พบการก่ออาชญากรรมเมื่อปี 2565 ว่าเกิดปัญหาจากการคุกคามทางเพศด้วยวาจากับตัวละครในเกมเสมือนจริง (VR Games) ของนักวิจัยที่อายุเพียง 21 ปี บนแพลตฟอร์มของบริษัทเมต้า (Meta)
องค์การตำรวจสากลนั้นเริ่มให้ความสำคัญกับการสืบสวนอาชญากรรมในเมตาเวิร์สมากขึ้น โดยความท้าทายอย่างหนึ่งคือการสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาของอาชญากรรมและรู้เท่าทันอาชญากรในเมตาเวิร์ส