ควันหลงส่งท้ายเดือนแห่งความรัก เดือนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของคนมีคู่ที่อวดดอกไม้ช่อสวย ดินเนอร์หรู หรือใช้เวลาโรแมนติกไปกับคนรัก ที่เมื่อก่อนถ้าใครไม่มีแฟนก็คงจะรู้สึกแปลกแยก แต่ในยุคปัจจุบัน มีคนอีกกลุ่มที่ไม่ได้ “อิน” กับเทศกาลแห่งความรัก หรือมองว่าคนรักเป็นสิ่งที่จำเป็นอีกต่อไป เรากำลังพูดถึงกลุ่มคนที่เรียกว่า “SINBAD” หรือที่ย่อมาจาก “Single Income, No Boyfriend Absolutely Desperate” หากแปลตรงตัว หมายถึง คนที่มีรายได้หลักช่องทางเดียวจากการทำงาน และดูเป็นคนน่าสิ้นหวังที่ไร้คู่ชีวิตเคียงข้าง
SINBAD คืออะไร?? SINBAD เริ่มเป็นที่รู้จักแรก ๆ ในแวดวงการตลาด เป็นคำที่ใช้นิยามกลุ่มคนวัยทำงานที่ยังโสด มีรายได้จากการทำงาน ไม่มีความทะเยอทะยานหรือความอยากจะหาแฟนให้ตัวเอง มีความสุขกับการใช้ชีวิตโสด คำว่า SINBAD ในอดีตอาจจะมีความหมายไปในเชิงลบ แต่บริบทให้สังคมปัจจุบันเปิดกว้างและยอมรับการใช้ชีวิตแบบโสดมากขึ้น SINBAD เริ่มมีความหมายในเชิงบวก แวดวงการตลาดมองว่ากลุ่ม SINBAD ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรี มีความสุขด้วยตัวเอง ไม่ต้องกังวลเรื่องของความสัมพันธ์ มุ่งเน้นการทำงานและความก้าวหน้าในอาชีพ ปัจจุบันในไทยเองกลุ่ม SINBAD มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เฉพาอย่างยิ่งในกลุ่มคนวัยทำงานที่มีการศึกษาและมีรายได้สูง
ถามว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น อาจจะเป็นเพราะความโสดไม่น่ากลัวเท่ากับความจน ด้วยสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ที่ค่าครองชีพสูง การแข่งขันและความหวังทางสังคมพยายามผลักดันให้ทุกคนต้องประสบความสำเร็จ ต้องมีเงินเดือนสูง ตำแหน่งงานสูงตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้คนรุ่นใหม่มุ่งทำงานหาเงิน หาความสำเร็จมากกว่าหาความรัก จนถึงจุดหนึ่งพบว่า เราสามารถพึ่งพาตนเองได้ คนรักก็อาจจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น รวมถึงเงินที่หามาได้ ก็มีเพื่อซื้อความสุขให้ตัวเอง ใช้จ่ายเงินไปได้ตามใจไปกับการท่องเที่ยว หรือกิจกรรมที่ตัวเองชอบ มากกว่าที่จะต้องใช้เงินไปกับคนอื่น ๆ
การใช้ชีวิตแบบ SINBAD มีข้อดีหลายอย่าง และเป็นการตัดสินใจของปัจเจกบุคคล แต่ภาพรวมแล้ว SINBAD กำลังเป็นปัญหาระดับประเทศเลยทีเดียว และท้าทายที่รัฐต้องมาให้ความสนใจอย่างจริง ๆ จัง ๆ เพราะจะส่งผลให้ประชากรของประเทศลดลง เมื่อคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานรายได้สูง เลือกที่จะไม่แต่งงานหรือมีลูก ในระยะยาวประชากรวัยทำงานของประเทศจะต้องลดลง ก็ยิ่งซ้ำเติมสังคมสูงวัย (aging society) ที่ไทยกำลังเผชิญ สุดท้ายแล้วเมื่อกลุ่ม SINBAD เข้าสู่วัยชราพวกเขาอาจขาดการดูแลจากคนใกล้ชิด และอาจต้องพึ่งพาการดูแลจากรัฐหรือสังคม หากเป็นเช่นนี้แล้วสังคมไทยจะมีคนวัยทำงานขับเคลื่อนประเทศได้อย่างไร
ส่วนอีกปัญหาในทางอ้อมก็คือ การเปลี่ยนแปลงค่านิยมของสังคม การที่กลุ่ม SINBAD ให้ความสำคัญกับความสุขส่วนบุคคลมากกว่าการสร้างครอบครัว อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงค่านิยมในสังคม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสถาบันครอบครัวในอนาคตได้ แล้วสิ่งที่ตามมาคือปัญหาความใส่ใจ (care) ซึ่งกันและกันในสังคมไทยที่จะจางหายไป
อาจต้องถึงเวลาแล้ว ที่แม้กลุ่ม SINBAD จะเป็นปรากฏการณ์ของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เกิดขึ้นทั่วโลก และทุกคนมีสิทธิเลือกอยู่ในกลุ่มนี้ได้ตามความพอใจของตน แต่ผลกระทบต่อสังคมในภาพรวมยิ่งใหญ่มาก รัฐบาลอาจต้องคิด และทำความเข้าใจ รวมทั้งมีแนวทางที่ทำกันจริง ๆ กันแล้วว่าจะรับมือกับผลของการเติบโตของกลุ่ม SINBAD ที่นับจะเติบโตขึ้นในสังคมไทย มีประสิทธิภาพได้อย่างไร