เว็บไซต์ Wired รายงานเมื่อ 25 เม.ย. 68 ว่า บริษัทแอปเปิ้ล (Apple) ของสหรัฐฯ เตรียมย้ายฐานการผลิตโทรศัพท์ไอโฟนที่ใช้สำหรับการจำหน่ายในสหรัฐฯ ทั้งหมดไปยังอินเดียภายในปี 2569 โดยปัจจุบันโทรศัพท์ไอโฟนส่วนใหญ่ยังคงผลิตภายในจีน ซึ่งมีความเสี่ยงสำหรับการนำเข้าของสหรัฐฯ เนื่องจากเมื่อต้นเมษายน 2568 รัฐบาลสหรัฐฯ ได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนสูงถึงร้อยละ 145 อย่างไรก็ตาม สินค้าประเภทสมาร์ทโฟนยังคงได้รับการยกเว้นภาษีชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน
ในการย้ายฐานการผลิตดังกล่าว บริษัทแอปเปิ้ลได้ร่วมทุนกับหลายบริษัท อาทิ Tata Electronics บริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงของอินเดีย Foxconn บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไต้หวัน และ Pegatron บริษัทประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของไต้หวัน ซึ่งนายนาฟเคนดาร์ ชิงห์ รองหน้าหน้าฝ่ายวิจัยอุปกรณ์ของบริษัท IDC ของอินเดียระบุว่าในปี 2567 บริษัทแอปเปิ้ลสามารถผลิตโทรศัพท์ไอโฟนในอินเดียได้ประมาณ 40 ถึง 43 ล้านเครื่อง แต่เนื่องจากภายในสหรัฐฯ สามารถจำหน่ายไอโฟนได้มากกว่า 60 ล้านเครื่องต่อปี หากต้องการรองรับความต้องการตลาดของสหรัฐฯ และอินเดียไปพร้อมกันจำเป็นต้องเพิ่มยอดการผลิตไอโฟนเป็นประมาณ 80 – 85 ล้านเครื่องซึ่งมากกว่า 2 เท่าของกำลังการผลิตในปัจจุบันและจำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามการผลิตไอโฟนภายในอินเดียนั้นไม่ได้ราบรื่นเสมอไป โดยเมื่อปี 2566 โรงงาน Hosur ของบริษัท Tata Electronics ที่ผลิตเคสโทรศัพท์ไอโฟนมีอัตราสินค้าผ่านมาตรฐานของบริษัทแอปเปิ้ลเพียงแค่ร้อยละ 50 เท่านั้น ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำมากซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาของการขาดทักษะและประสิทธิภาพที่ต้องใช้ในการผลิต และหากต้องการขยายกำลังการผลิตที่อินเดียจำเป็นต้องมีวิศวกรและคนงานจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตมาช่วยชี้แนะในการสร้างสายการผลิตซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจเป็นอุปสรรคได้ เนื่องจากจีนและอินเดียยังคงมีปัญหาทางการเมืองอยู่
เหตุผลหนึ่งที่จีนอาจไม่คัดค้านบริษัทแอปเปิ้ลในการย้ายฐานการผลิตไปอินเดียคือ โรงงานผลิตโทรศัพท์ไอโฟนในอินเดียยังเป็นเพียงโรงงานผลิตเคสและโรงงานประกอบโทรศัพท์จากชิ้นส่วนที่ผลิตมาอยู่แล้ว ไม่ใช่โรงงานผลิตชิ้นส่วนคุณภาพสูงอย่างเซมิคอนดักเตอร์ อาทิ ชิป A18 ที่ใช้ในโทรศัพท์ไอโฟนซีรีส์ 16 ผลิตโดยบริษัท TSMC บริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน แม้ว่าจะมีการเริ่มต้นผลิตชิปในอินเดียแล้วก็ตาม แต่ยังต้องใช้เวลาอีกนาน ดังนั้นชิ้นส่วนในการผลิตโทรศัพท์ไอโฟนยังจำเป็นต้องนำเข้าจากจีนอยู่ดี