เว็บไซต์ japantoday.com รายงานเมื่อ 4 ก.ค.68 ว่า สื่อออนไลน์ให้ความสนใจเผยแพร่ผลงานวิจัยของ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology) หรือ MIT ซึ่งค้นพบว่า นักเรียนที่ใช้ ChatGPT เขียนเรียงความจะมีการคิดวิเคราะห์น้อยลง โดยมีการโพสต์แสดงความเห็นคิดเห็นจากครูจำนวนมากที่พบปัญหาเช่นนี้ในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย สอดคล้องกับที่ทีมวิจัยได้รับอีเมลจากครูมากกว่า 3,000 ฉบับตั้งแต่ตีพิมพ์ผลงานเมื่อ มิ.ย.68
ทั้งนี้ งานวิจัย ดังกล่าวศึกษาคลื่นไฟฟ้าสมอง (Electroencephalogram หรือ EEG) ของกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็กประกอบด้วยนักเรียนและผู้ใหญ่ 54 คน จากนครบอสตัน ซึ่งถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ที่ใช้ ChatGPT เขียนเรียงความภายใน 20 นาที กลุ่มที่ 2 ใช้ search engine และกลุ่มสุดท้ายใช้การคิดวิเคราะห์ด้วยตนเอง ผลลัพธ์ปรากฏว่า กลุ่มที่ใช้ ChatGPT ได้คะแนนแย่กว่ากลุ่มที่ใช้สมองอย่างมีนัยสำคัญในทุกด้าน และมากกว่าร้อยละ 80 ของกลุ่มที่ใช้ ChatGPT ไม่สามารถอ้างอิงสิ่งที่เขียนได้ (ขณะที่อีกสองกลุ่มมีตัวอย่างเพียงร้อยละ 10 ที่ไม่สามารถอ้างอิงสิ่งที่เขียนได้) ผู้วิจัยย้ำว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปจากขนาดกลุ่มทดลองเล็ก ๆ อีกทั้งเมื่อทดสอบให้กลุ่มที่เขียนเรียงความด้วยตนเองใช้ ChatGPT ช่วยเขียน กลับพบว่าสมองมีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น และยังไม่มีหลักฐานหรือวิธีการที่เข้มงวดพอจะสรุปว่าแบบจำลองภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models) หรือ LLMs ดังเช่น ChatGPT ส่งผลต่อสมองมนุษย์อย่างไร