สำนักข่าว CNBC รายงานเมื่อ 3 ก.ค. 68 ว่า บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ Baidu ของจีน ปรับปรุงแพลตฟอร์มการค้นหาหลักด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้สามารถตั้งคำถามด้วยเสียงหรือรูปภาพ และเพิ่มเครื่องมือสร้างวิดีโอ AI ความยาว 3 นาที จากประโยคเดียว รวมถึงมีฟีเจอร์แก้ไขสตอรีบอร์ดและออกแบบฉากได้ตามต้องการ ซึ่งเป็นการยกเครื่องผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดในรอบ 10 ปี เพื่อนำหน้าคู่แข่ง AI ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่มีแพลตฟอร์ม ChatGPT และ DeepSeek โดยเฉพาะ DeepSeek R1 ที่เปิดตัวเมื่อ ม.ค. 68 และสร้างกระแสอย่างมากในวงการ AI ด้วยสมรรถนะที่ใกล้เคียงคู่แข่งตะวันตกในต้นทุนที่ต่ำ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น เช่น Douyin และ Kuaishou ก็เพิ่มความกดดันของการแข่งขันในตลาดการค้นหาด้วย AI แม้ Baidu ได้เปิดตัว Ernie Bot ตั้งแต่ปี 2566 แต่ก็ยังตามหลังคู่แข่งอย่าง Alibaba, ByteDance และ Tencent ที่เปิดโมเดล AI แบบไม่จำกัดลิขสิทธิ์ (opensource) ไปก่อนแล้ว ขณะที่ Baidu เพิ่งประกาศให้ Ernie X1 เป็น opensource เมื่อ 30 มิ.ย. 68 อ้างว่าให้ประสิทธิภาพใกล้เคียง DeepSeek R1 แต่ราคาถูกกว่าครึ่ง นักวิเคราะห์จึงประเมินว่า ความสามารถในการแข่งขันของ Baidu ขึ้นอยู่กับการรักษาคุณภาพและควบคุมต้นทุนให้ได้เปรียบตามที่กล่าวอ้าง โดยแนวโน้มการใช้ AI ค้นหาแบบสรุปข้อมูลทันที (Zero-click และ Generative AI Search) ได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ก่อให้เกิดความกังวลว่าในอนาคตเว็บไซต์ที่พึ่งพาการเข้าชมจากการค้นหา อาจสูญเสียปริมาณผู้เข้าชมโดยตรง ซึ่งเป็นประเด็นที่ควรจับตาและหาทางรับมือ