สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ได้แก่ ลาว เมียนมา และกัมพูชาในปัจจุบันทวีความรุนแรงและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เฉพาะอย่างยิ่งปัญหาอาชญากรรมที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนต่างชาติ อาทิ การพนันออนไลน์ การฉ้อโกงข้ามชาติ การค้ามนุษย์ และการลักลอบค้ายาเสพติด ซึ่งส่งผลกระทบต่อไทย ทั้งในมิติด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม
ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติของกลุ่มทุนชาวจีน หรือที่เรียกว่ากลุ่มจีนเทา ฉวยโอกาสใช้ประเทศที่มีพรมแดนติดกับไทยเป็นพื้นที่ก่อเหตุ ดำเนินการทั้งการหลอกลวง การจัดหา และการลักลอบนำพาเหยื่อทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไปเป็นแรงงานบังคับ รวมทั้งก่ออาชญากรรมอื่น ๆ เช่น การพนันออนไลน์ การฉ้อโกงข้ามชาติในรูปแบบคอลเซนเตอร์ และการหลอกลวงด้วยวิธีการหาคู่ทางอินเทอร์เน็ต (Romance scam)
ปัจจัยที่ส่งเสริมให้กลุ่มจีนเทาขยายตัวในประเทศเพื่อนบ้านบริเวณชายแดนไทย เช่น 1) อาชญากรชาวจีนย้ายฐานดำเนินการออกนอกประเทศ จากการที่รัฐบาลดำเนินมาตรการปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ในประเทศอย่างจริงจัง 2) ผู้ประกอบการกลุ่มจีนเทาส่วนใหญ่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในกาสิโนในประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณชายแดนไทย ที่ต้องปิดไปเพราะการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ไปเป็นฐานดำเนินการอาชญากรรมข้ามชาติ อาทิ การพนันออนไลน์ และการฉ้อโกงข้ามชาติ และ3) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทำให้เข้าถึงเหยื่อได้ง่ายขึ้น
ฐานดำเนินการของกลุ่มจีนเทา มีทั้งชายแดนเมียนมา เช่น ในเมืองเมียวดี ตรงข้ามอำเภอแม่ระมาด อำเภอแม่สอด และอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ชายแดนลาว เช่น ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว และฝั่งตรงข้ามอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และชายแดนกัมพูชา เช่น กรุงปอยเปต กัมพูชา ฝั่งตรงข้ามอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดอุดรมีชัย ฝั่งตรงข้ามจังหวัดศรีสะเกษ เป็นต้น
รูปแบบของอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของกลุ่มจีนเทาที่สำคัญ ได้แก่ 1) การหลอกลวงเหยื่อในลักษณะการค้ามนุษย์ 2) การฉ้อโกงผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น ขบวนการคอลเซนเตอร์ (Call Center Scams) และการหลอกลวงด้วยวิธีการหาคู่ทางอินเทอร์เน็ต (Romance Scam)
กลุ่มจีนเทามีแนวโน้มก่ออาชญากรรมออนไลน์ และทางกายภาพขยายตัวไปในพื้นที่ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ในเขตที่มีความอ่อนแอในการบังคับใช้กฎหมาย และพื้นที่ที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าในเขตพื้นที่เมือง ซึ่งทำให้ไทยเผชิญกับความเสี่ยงจากการถูกใช้เป็นพื้นที่ทางผ่านสำคัญของการลักลอบนำพาเหยื่อค้ามนุษย์จากฐานอาชญากรรมในเมียนมาไปยังฐานอาชญากรรมอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น รวมทั้งสินค้าผิดกฎหมายไปสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมหลอกลวงทางออนไลน์ในฐานอาชญากรรมข้ามชาติ
แนวทางการปราบปรามที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศในกลุ่มประเทศที่มีส่วนได้ส่วนเสีย เฉพาะอย่างยิ่งจีนที่เป็นประเทศต้นทางของกลุ่มอาชญากร รวมทั้งไทยที่ถูกใช้เป็นทางผ่านการค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน รวมทั้งลาว เมียนมา และกัมพูชา ตลอดจนประเทศอื่น ๆ ที่ประชาชนถูกหลอกลวงไปเป็นแรงงานบังคับ
สามารถติดตามความท้าทายด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงจากกลุ่มจีนเทา ต่อได้ใน EP 2