สหรัฐฯ เสร็จสิ้นการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก (World Bank) เมื่อ 18 ตุลาคม 2568 ซึ่งเป็นการประชุมสำคัญระดับโลกที่มีผู้แทนจากองค์กรสถาบันการเงินและการธนาคาร รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจโลกไปร่วมแสดงมุมมองและวิสัยทัศน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า และการบริหารจัดการงบประมาณของประเทศต่าง ๆ เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานของ IMF และธนาคารโลกที่เป็นหน่วยงานให้ความช่วยเหลือนานาชาติด้านเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพต่อไป
ประเด็นสำคัญในการประชุมปี 2568 นี้ นางคริสตาลีนา จอร์เจวา ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของ IMF มีมุมมองว่าเศรษฐกิจโลกยังเผชิญความเสี่ยงและความท้าทายหลายประการ จากนโยบายของมหาอำนาจ การแข่งขันเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีขั้นสูง และการขยายการลงทุนด้านการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่อาจทำให้เสี่ยงเกิดภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ หรือภาวะที่ราคาสินทรัพย์เกี่ยวกับสินค้าเทคโนโลยีปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงเกินกว่ามูลค่าที่แท้จริง จนกระทั่งเกิดการเก็งกำไร และท้ายที่สุดจะเสี่ยงเกิดภาวะฟองสบู่แตก เมื่อเกิดจุดอิ่มตัวหรือเหตุการณ์ที่ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น
ผู้อำนวยการ IMF เสนอแนะให้ประเทศต่าง ๆ ตระหนักว่าปัจจุบันเศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในภาวะไม่แน่นอน ซึ่งจะเป็นภาวะปกติใหม่ (new normal) เนื่องจากมีแนวโน้มจะอยู่ต่อไป ตัวอย่างที่สะท้อนว่าเศรษฐกิจโลกจะไม่แน่นอนในระยะยาว คือ ผลกระทบจากนโยบายอัตราภาษีตอบโต้ของผู้นำสหรัฐฯ สถานะของธนาคารกลางในประเทศต่าง ๆ ที่ควรเป็นอิสระจากรัฐบาล ปัญหาหนี้สาธารณที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก การปรับตัวกับเศรษฐกิจดิจิทัล ความขัดแย้งและสงครามระหว่างประเทศ และความแตกแยกทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการบริหารจัดการงบประมาณในหลายประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจโลกให้ความเห็น และข้อเสนอแนะว่า ประเทศต่าง ๆ ต้องยอมรับความเป็นจริงและปรับตัวตามสภาพเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ร่วมกันตั้งคำถามและหาทางออกให้ระบบเศรษฐกิจตามข้อตกลง Brent Woods และส่งเสริมความร่วมมือแบบพหุภาคีมากขึ้น เนื่องจากความร่วมมือดังกล่าวจะเป็น “ทางออก” สำคัญให้กับทุกประเทศ
ผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ ยังใช้เวทีการประชุม IMF และธนาคารโลกครั้งนี้ แสดงจุดยืนทางการเมืองระหว่างประเทศ และให้ความเห็นเกี่ยวกับบทบาทขององค์กรนานาชาติ เช่น ผู้แทนของสหรัฐฯ เรียกร้องให้ IMF และธนาคารโลกกลับไปทำหน้าที่ดั้งเดิมตามเป้าหมายแรกที่ก่อตั้งขึ้นมา คือ การช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ รวมทั้งภาคเอกชนให้มีเสถียรภาพด้านการเงินและเศรษฐกิจระดับมหภาค ด้านผู้นำประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดเล็กอย่างแซมเบีย แสดงความเห็นว่าแซมเบียจะพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศด้วยการพึ่งพาตนเอง เพื่อรับมือกับสภาวะโลกที่ความช่วยเหลือจากต่างประเทศ รวมทั้งองค์กรนานาชาติจะลดลง
นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญที่ทั่วโลกสนใจจากการประชุม คือ การกำหนดโควตาของ IMF ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนหลัก โดยสมาชิกแต่ละรายของ IMF จะได้รับโควตา จากสถานะทางเศรษฐกิจโลก แม้ว่า IMF ทบทวนโควตาเป็นประจำ แต่ทั่วโลกต้องการให้ปฏิรูป เพื่อให้เหมาะสมกับฐานะทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
ไทยซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปี 2569 ของ IMF และ World Bank ที่กรุงเทพฯ ระหว่าง 12-18 ตุลาคม 2569 จะเป็นโอกาสดีที่จะได้ต้อนรับผู้แทนระดับสูงจากองค์กรระหว่างประเทศและผู้นำประเทศต่าง ๆ และสะท้อนว่าไทยยังได้รับความเชื่อมั่นจากต่างประเทศให้เป็นสถานที่จัดการประชุมระดับนานาชาติ ทั้งนี้ ไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าวแล้วเมื่อปี 2534 ปัจจุบันมีการเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์และช่องทางติดตามข่าวสารได้ที่ www.am2026thailand.go.th