เมืองหลวง เบลเกรด
ที่ตั้ง อยู่บริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ มีพื้นที่ 88,361 ตร.กม. ขนาดใหญ่อันดับที่ 111 ของโลก แบ่งเป็นพื้นดิน 19,194 ตร.กม. พื้นที่ป่า 19,499 ตร.กม. เซอร์เบียเป็นประเทศที่ไม่มีเส้นทางเข้าสู่ทะเล (landlocked) โดยต้องใช้เส้นทางผ่านมอนเตเนโกรเพื่อเข้าถึงทะเลอเดรียติก และสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่ยุโรปตอนในและทะเลดำได้ โดยผ่านแม่น้ำดานูบ
อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดกับฮังการี
ทิศใต้ ติดกับนอร์ทมาซิโดเนีย และแอลเบเนีย
ทิศตะวันออก ติดกับโรมาเนีย และบัลแกเรีย
ทิศตะวันตก ติดกับมอนเตเนโกร โครเอเชีย และบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา
ภูมิประเทศ มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลาย ทางตอนเหนือมีที่ราบ ทางตะวันออกมีแนวหินปูนและแอ่งน้ำ ทางตะวันออกเฉียงใต้มีภูเขาและเนินเขาที่เก่าแก่ ทางเหนือมีแม่น้ำดานูบ ทางใต้มีแม่น้ำ Morava ทางตอนกลางประกอบด้วยเนินเขาเตี้ย ๆ และสูงปานกลาง แทรกด้วยแม่น้ำและแอ่งน้ำขนาดเล็ก
วันชาติ 15 ก.พ.
นางสาวอานา เบอร์นาบิช
Ana Brnabić
(นรม.เซอร์เบีย)
-
ประชากร 6,908,224 คน
รายละเอียดประชากร เซิร์บ 83.3% ฮังการี 3.5% โรมา 2.1% บอสเนีย 2% อื่น ๆ (โครแอต สโลวัก แอลเบเนียน บัลแกเรียน) 5.7% อัตราส่วนประชากรจำแนกตามอายุ : วัยเด็ก (0-14 ปี) 15.36% วัยรุ่นถึงวัยกลางคน (15-64 ปี) 65.57% และวัยชรา (65 ปีขึ้นไป) 19.06% อัตราการเกิด 9.3 คนต่อประชากร 1,000 คน อัตราการตาย 14.6 คนต่อประชากร 1,000 คน อายุขัยเฉลี่ยของประชากร 75.68 ปี เพศชาย 73.1 ปี เพศหญิง 78.4 ปี
การก่อตั้งประเทศ เซอร์เบีย เดิมเป็น 1 ใน 6 ชาติในสาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย หรือ Socialist Republic of Yugoslavia ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2488 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (อีก 5 ชาติ ในกลุ่ม ได้แก่ มอนเตเนโกร สโลวีเนีย โครเอเชีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และนอร์ทมาซิโดเนีย) จนกระทั่งห้วงทศวรรษที่ 1990 สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวียค่อย ๆ แตกสลาย โดย 1) สโลวีเนียและนอร์ทมาซิโดเนียสามารถแยกตัวเป็นอิสระได้โดยสันติ 2) การแยกตัวของโครเอเชียและบอสเนียต้องเผชิญกับการทำสงครามอย่างรุนแรง 3) เซอร์เบียและมอนเตเนโกร ห้วงปี 2535-2546 รวมตัวกันจัดตั้งเป็น Federal Republic of Yugoslavia ต่อมาปี 2546 ปรับรูปแบบกลายเป็น Union of Serbia and Montenegro ที่มีลักษณะการรวมตัวแบบหลวมกว่าเดิม และปี 2549 มอนเตเนโกรได้ลงประชามติและแยกตัวเป็นเอกราช ส่งผลให้เหลือเพียงเซอร์เบียประเทศเดียว ปัจจุบันเซอร์เบียพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับคอซอวอ จากความขัดแย้งยืดเยื้อนับตั้งแต่การประกาศเอกราชฝ่ายเดียวของคอซอวอ
การเมือง ระบอบสาธารณรัฐแบบมีประธานาธิบดี การจัดการเขตบริหารการปกครองของเซอร์เบียสามารถแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่คือ เซอร์เบียกลาง (Central Serbia/Serbia proper) และจังหวัดปกครองตัวเองวอยโวดีนา (Autonomous Province of Vojvodina) โดยจัดแบ่งการปกครองย่อยเป็นเขตต่าง ๆ จำนวน 25 เขต (30 เขต หากรวมคอซอวอด้วย) แบ่งออกเป็น เขตปกครองพิเศษ 1 เขต คือ เขตปกครองพิเศษเบลเกรด เขตปกครองในวอยโวดีนา 7 เขต ได้แก่ ซเรม บาชกาใต้ บาชกาตะวันตก บาชกาเหนือ บานัทเหนือ บานัทตอนกลาง และบานัทใต้ เขตปกครองในชูมาดียาและเซอร์เบียตะวันตก 8 เขต ได้แก่ โกลูบารา ชูมาดียา ซลาติบอร์ โปโมราฟลีเย มาชวา โมราวิทซา ราชกา และราซินา เขตปกครองในเซอร์เบียภาคตะวันออกและใต้ 9 เขต ได้แก่ ซาเยร์ชาร์ โทปลิทซา นิชาวา บรานิเชโว บอร์ ปชินยา ปิรอท โปดูนาฟลีเย และยาบลานิทซา เขตปกครองอยู่ในคอซอวอ 5 เขต (มีปัญหาขัดแย้งเรื่องการอ้างสิทธิ) ได้แก่ คอซอวอ คอซอวอ-โปโมราฟลีเยคอซอฟสกา-มิตรอวิทซา เปช และพริซเรน
ฝ่ายบริหาร : นรม.ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร โดย นรม.ได้รับการคัดเลือกจากสภาผู้แทนราษฎร (The National Assembly) ตามข้อเสนอของประธานาธิบดีภายหลังจากประธานาธิบดีได้หารือกับแกนนำในรัฐสภาเพื่อเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสม ทั้งนี้ ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งทั่วประเทศโดยประชาชน วาระ 5 ปี ภารกิจของประธานาธิบดีส่วนใหญ่เน้นด้านพิธีการ และมีอำนาจด้านการบริหารอย่างจำกัด บุคคลในคณะรัฐมนตรีได้รับการเสนอชื่อจาก นรม.และสภาผู้แทนราษฎรให้การรับรอง ในทางปฏิบัติ อำนาจการบริหารอยู่ที่ นรม. รอง นรม.ด้านต่าง ๆ และรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ โดย นรม.ทำหน้าที่เสนอวาระต่อสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงเสนอชื่อบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี
ฝ่ายนิติบัญญัติ : ระบบสภาเดี่ยว มีสภาผู้แทนราษฎร (The National Assembly) ประกอบด้วยผู้แทนที่มาจากการคัดเลือกด้วยวิธีการลงคะแนนลับจำนวน 250 คน วาระ 4 ปี มีอำนาจสูงสุดด้านนิติบัญญัติ ทำหน้าที่พิจารณารับรองหรือปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงการแต่งตั้งและถอดถอนผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลฎีกา ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติเซอร์เบีย และตำแหน่งเจ้าหน้าที่ภาครัฐอื่น ๆ ทั้งนี้ พรรค Serbian Progressive Party (SNS) พรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่มีประธานาธิบดี Aleksandar Vucic เป็นหัวหน้าพรรค นำพรรค SNS ชนะการเลือกตั้งเมื่อ มิ.ย.2563 ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร 188 ที่นั่ง การเลือกตั้งครั้งต่อไปมีกำหนดจัดในปี 2567
ฝ่ายตุลาการ : กระบวนการยุติธรรมประกอบด้วยศาลหลายระดับ ได้แก่ ศาลชั้นต้น (Basic Court) ศาลชั้นสูง (High Court) ศาลอุทธรณ์ (Appellate Court) และศาลฎีกา (Supreme Court of Cassation) ศาลฎีกามีอำนาจสูงสุด ทำหน้าที่ทบทวนคดีความที่ผ่านการพิจารณาจากศาลชั้นรองอื่น ๆ ลดหลั่นตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีศาลเฉพาะด้าน เช่น ศาลพาณิชย์ (Commercial Court) ศาลปกครอง (Administrative Court) เป็นต้น
การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเซอร์เบียที่พึ่งพาภาคการผลิตและการส่งออกอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยว ธุรกรรมการเงิน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และการจ้างงานในประเทศ นอกจากนี้ ปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคและกระบวนการเข้าร่วมสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ที่ชะลอตัวยังส่งผลกระทบต่อทิศทางการลงทุนและการดำเนินการโครงการต่าง ๆ
สกุลเงิน ตัวย่อสกุลเงิน : ดีนาร์เซอร์เบีย (Serbia Dinar)
อัตราแลกเปลี่ยนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ : 1 ดีนาร์เซอร์เบีย : 0.0099 ดอลลาร์สหรัฐ
อัตราแลกเปลี่ยนต่อ 1 บาท : 1 ดีนาร์เซอร์เบีย : 0.33 บาท (ต.ค. 2564)
ดัชนีเศรษฐกิจสำคัญ (ปี 2563)
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) : 52,960 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ : -0.98%
รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี : 7,666.24 ดอลลาร์สหรัฐ
แรงงาน : 3,167,119 คน
อัตราการว่างงาน : 9.01%
อัตราเงินเฟ้อ : 1.576%
มูลค่าการส่งออก : 25,415 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้าส่งออกสำคัญ : ยานยนต์และยานเบาะอากาศ (air cushion vehicles) ชิ้นส่วนเครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้า ธัญพืชสำเร็จรูป ผักและผลไม้ เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม ธาตุเหล็ก เหล็กกล้า ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากเหล็ก ยาง
มูลค่าการนำเข้า : 30,130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้านำเข้าสำคัญ : อุปกรณ์การขนส่ง ชิ้นส่วนเครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ ยาและเวชภัณฑ์ สินค้าอุตสาหกรรม เหล็กและเหล็กกล้า กระดาษ พลาสติก
คู่ค้าสำคัญ : อิตาลี เยอรมนี รัสเซีย โรมาเนีย บอสเนีย มอนเตเนโกร นอร์ทมาซิโดเนีย โครเอเชีย ฝรั่งเศส
การทหาร มีกำลังพล 28,150 นาย (แยกเป็น ทบ.13,250 นาย ทอ.5,100 นาย Training Command 3,000 นาย Guards 1,600 นาย และอื่น ๆ 5,200 นาย) กกล.สารวัตรทหาร 3,700 นาย กำลังพลทหารสำรอง 50,150 นาย งบประมาณด้านการทหาร 2.11% ของ GDP (ประมาณการณ์ปี 2563) เซอร์เบียยกเลิกการเกณฑ์ทหารตั้งแต่ ธ.ค.2553 โดยปัจจุบัน ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปสามารถสมัครเป็นทหารได้โดยสมัครใจ
ปัญหาด้านความมั่นคง ปรากฏรายงานแจ้งเตือนความเสี่ยงการเกิดเหตุก่อการร้ายในเซอร์เบีย แต่ไม่มีเหตุก่อการร้ายในห้วงปี 2563 เซอร์เบียเสี่ยงเป็นเส้นทางขนส่งของอาวุธ ยาเสพติด และเงินผิดกฎหมายภายในภูมิภาค เซอร์เบียเป็นจุดขนส่งทางเรือของเฮโรอีนจากเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ไปยังยุโรปตะวันตกโดยผ่านเส้นทางบอลข่าน ขณะที่ภาคเศรษฐกิจยังเปราะบางเสี่ยงเป็นแหล่งฟอกเงิน และยังประสบปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนที่เชื่อมต่อกับคอซอวอ เซอร์เบียได้เสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนในระดับทวิภาคีกับบัลแกเรีย ฮังการี และโรมาเนีย และระดับไตรภาคีกับบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และโครเอเชีย
ความสัมพันธ์ไทย-เซอร์เบีย :
ไทยและเซอร์เบียสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อ 22 เม.ย.2546
ด้านการค้า เมื่อปี 2563 เซอร์เบียเป็นคู่ค้าลำดับที่ 133 ของไทยในตลาดโลก มูลค่าการค้ารวม 912 ล้านบาท ไทยส่งออก 535 ล้านบาท และนำเข้า 377 ล้านบาท ไทยได้ดุลการค้า 158 ล้านบาท สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ อาหารกระป๋องและแปรรูป แผงสวิทช์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษสินค้านำเข้าสำคัญของไทย ได้แก่ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช ผลิตภัณฑ์ยาสูบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม