สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย
Federal Democratic Republic of Ethiopia
เมืองหลวง แอดดิสอาบาบา
ที่ตั้ง อยู่ในทวีปแอฟริกาตะวันออกบริเวณที่เรียกว่าจงอยแอฟริกา (Horn of Africa) ละติจูด 8 องศาเหนือ 38 องศาตะวันออก พื้นที่ 1,104,300 ตร.กม.
อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดกับเอริเทรีย 1,033 กม.
ทิศใต้ ติดกับเคนยา 867 กม.
ทิศตะวันออก ติดกับโซมาเลีย 1,640 กม.
ทิศตะวันตก ติดกับซูดาน 744 กม. และเซาท์ซูดาน 1,299 กม.
ภูมิประเทศ เป็นที่ราบสูงมีแนวเขาตอนกลางประเทศ แยกโดยหุบเขา Great Rift Valley ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการไหวตัวทางธรณีวิทยาบ่อยตรงกลางประเทศ
วันชาติ 28 พ.ค.
นาง Sahle-Work Zewde
(ประธานาธิบดีเอธิโอเปีย)
นาย Abiy Ahmed Ali
(นรม.เอธิโอเปีย)
ประชากร 110,871,031 คน (ก.ค.2564)
รายละเอียดประชากร ชนเผ่า Oromo 34.9% Amhara (Amara) 27.9% Tigray (Tigrinya) 7.3% Sidama 4.1% Welaita 3% Gurage 2.8% Somali (Somalie) 2.7% Hadiya 2.2% Afar (Affar) 0.6% และอื่น ๆ 12.6% อัตราส่วนประชากรจำแนกตามอายุ : วัยเด็ก (0-14 ปี) 39.81% วัยรุ่นถึงวัยกลางคน (15-64 ปี) 56.81% วัยชรา (65 ปีขึ้นไป) 3.38% อายุขัยเฉลี่ยของประชากรโดยรวม 67.9 ปี เพศชายประมาณ 65.79 ปี เพศหญิงประมาณ 70.06 ปี อัตราการเกิด 31.03 คนต่อประชากร 1,000 คน อัตราการตาย 5.8 คนต่อประชากร 1,000 คน อัตราการเพิ่มของประชากร 2.5%
การก่อตั้งประเทศ เอธิโอเปียเป็นหนึ่งในชาติที่มีประวัติศาสตร์อันต่อเนื่องยาวนานที่สุดในทวีปแอฟริกา และเป็นดินแดนที่ได้รับอารยธรรมจากอียิปต์และกรีกตั้งแต่สมัยโบราณ ดินแดนเอธิโอเปียก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เรียกว่าอบิสสิเนีย ปกครองโดยราชวงศ์เอธิโอเปีย ซึ่งได้รับการสถาปนาโดยพระเจ้าเมเนลิก พระราชโอรสของพระเจ้าโซโลมอน และพระนางชีบา เมื่อปี 2412 อิตาลีได้เข้ายึดครองแคว้นเอริเทรียของเอธิโอเปีย และประกาศให้แคว้นเอริเทรียเป็นอาณานิคมของตนเมื่อปี 2433 แต่ในสนธิสัญญาสันติภาพอิตาลียังคงยอมรับเอกราชของเอธิโอเปียต่อไป เอธิโอเปียอยู่ภายใต้การปกครองของกษัตรยิ์ไฮเล เซลัซซี (Haile Selassie) เป็นเวลากว่า 50 ปี โดยเซลัซซี ได้รับตำแหน่งผู้สำเร็จราชการ (Regent) ในปี 2459 ต่อมาได้ขึ้นเป็นกษัตริย์เมื่อปี 2471
เมื่อปี 2479 อิตาลีได้รุกรานเอธิโอเปียและยึดเอธิโอเปีย เอริเทรีย และโซมาลีแลนด์ และประกาศรวมกันเป็นแอฟริกาตะวันออกของอิตาลีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2484 ภายใต้ความช่วยเหลือของกองทัพอังกฤษ กษัตริย์เซลัซซี สามารถยึดเอธิโอเปียคืนจากอิตาลีได้เป็นผลสำเร็จแต่อิตาลียังคงยึดแคว้นเอริเทรียไว้ หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง เอธิโอเปียได้เรียกร้องดินแดนเอริเทรียคืน และสหประชาชาติได้มีข้อมติที่ 380 A (V) เมื่อปี 2492 โดยให้เอริเทรียเป็นดินแดนปกครองตนเองภายใต้จักรวรรดิเอธิโอเปีย แต่ต่อมาเมื่อปี 2505 เอธิโอเปียได้ผนวกเอริเทรียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ ในฐานะจังหวัดที่ 14 และได้กลายเป็นชนวนการสู้รบระหว่างชาวเอริเทรียที่ต้องการเอกราชกับฝ่ายเอธิโอเปียเรื่อยมา จนกระทั่เมื่องปี 2536 รัฐบาลเอธิโอเปียยอมให้มีการลงประชามติเกี่ยวกับอนาคตการปกครองของประชาชนเอริเทรีย ซึ่งผลปรากฏว่า ประชามติเป็นเอกฉันท์ให้เอริเทรียแยกตัวออกจากเอธิโอเปีย
นรม. Meles Zenawi เสียชีวิตในตำแหน่งเมื่อ ส.ค.2555 โดย รอง นรม. Hailemariam Desalegn รับตำแหน่งแทน ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติครั้งหนึ่ง การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ พ.ค.2558 พรรค Ethiopian People Revolutionary Democratic Front (EPRDF) ชนะการเลือกตั้ง จากนั้นรัฐบาลเอธิโอเปียยกเลิกนโยบายขยายเมืองหลวงแอดดิสอาบาบา เนื่องจากประชาชนในพื้นที่รอบเมืองหลวงชุมนุมประท้วงนโยบายดังกล่าว รวมทั้งกล่าวหารัฐบาลละเมิดสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตยจากการปราบปรามอย่างรุนแรง ทำให้ประชาชนเสียชีวิตมากกว่า 400 คน และถูกจับกุมมากกว่า 1,000 คน
การเมือง ปกครองแบบสาธารณรัฐ (Republic) ประธานาธิบดีเป็นประมุขมีวาระ 6 ปี ลงเลือกตั้งซ้ำได้หนึ่งครั้ง การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดมีขึ้นเมื่อ 25 ต.ค.2562 การเลือกตั้งครั้งต่อไปกำหนดมีขึ้นในปี 2568
ฝ่ายบริหาร : นรม.มาจากพรรคที่ได้เสียงข้างมากหลังการเลือกตั้ง นรม.คนปัจจุบันคือ นาย Abiy Ahmed ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ 2 เม.ย.2561
ฝ่ายนิติบัญญัติ : สภาแห่งชาติเป็นระบบสองสภา ประกอบด้วย 1) สภาแห่งรัฐหรือวุฒิสภา หรือ Yefedereshein Mikir Bete มีสมาชิก 108 คน สมาชิกได้รับเลือกโดยอ้อมจากสภาของแต่ละรัฐ มีหน้าที่ตีความรัฐธรรมนูญ และ 2) สภาผู้แทนราษฎรหรือ Yehizb Tewokayoch Mekir Bete มีสมาชิก 547 คน มาจากการเลือกตรงโดยตรง ดำรงตำแหน่งวาระละ 5 ปี การเลือกตั้งครั้งล่าสุดมีขึ้นเมื่อ 24 พ.ค.2558 ครั้งต่อไปกำหนดมีขึ้นใน ส.ค.2563 แต่ต้องเลื่อนออกไปในปี 2564 เนื่องจากวิกฤตโรค COVID-19
ฝ่ายตุลาการ : ศาลสูงมีผู้พิพากษา 11 คน ประธานและรองประธานเสนอชื่อโดย นรม.และแต่งตั้งโดยสภาผู้แทนราษฎร ผู้พิพากษาคนอื่นเสนอชื่อโดยคณะกรรมการตุลาการ ให้สภาผู้แทนราษฎรแต่งตั้ง ผู้พิพากษาเกษียณอายุเมื่ออายุครบ 60 ปี มีหน้าที่วินิจฉัยกฏหมายรัฐธรรมนูญ ศาลอื่นได้แก่ ศาลสูงของรัฐ และศาลชั้นต้น ศาลอิสลาม
พรรคการเมืองสำคัญ : Ethiopian People’s Revolutionary Democratic Front หรือ EPRDF (เป็นพรรครัฐบาล ประกอบด้วย 4 พรรคการเมือง) ได้แก่ The Oromo Peoples’ Democratic Organization (OPDO), the Amhara National Democratic Movement (ANDM), the Southern Ethiopian People’s Democratic Move-ment (SEPDM) และ The Tigrayan People’s Liberation Front (TPLF). Afar National Democratic Party หรือ ANDP (Mohammed Kedir) All Ethiopian Unity Organization หรือ AEUO (Hailu Shawel) Arena Tigray (GE-BRU Asrat) Argoba People’s Democratic Organization หรือ APDO (Abdulkader Mohammed) Benishangul Gumuz People’s Democratic Party หรือ BGPDP (Mulualem Besse) Blue Party (Semayawi Party) (Yanatan Tesfaye, spokesman) Coalition for Unity and Democratic Party หรือ CUDP (Ayele Chamiso) Ethiopian Democratic Party หรือ EDP (Mushe Semu) Ethiopian Federal Democratic Forum หรือ FORUM (Dr. Moga Frissa) Gambella Peoples Unity Democratic Movement หรือ GPUDM Gurage Peoples Democratic Front (Girma Bogale) Harari National League หรือ HNL (Yasin Husein) Oromo Federalist Democratic Movement or OFDM Oromo People’s Congress หรือ OPC (Imerera Gudina) Somali Democratic Alliance Forces หรือ SODAF (BUH Hussien) Somali People’s Democratic Party หรือ SPDP (Abdulfetah Sheck Abdulahi) South Ethiopian People’s Democratic Union หรือ SEPDU (Tilahun Endeshaw) United Ethiopian Democratic Forces หรือ UEDF (Beyene Petros) Unity for Democracy and Justice หรือ UDJ (Dr. Negasso Gida-da) Ethiopian People’s Patriotic Front หรือ EPPF (ประกาศเข้าร่วมกับรัฐบาล เมื่อ ก.ย.2559)
กลุ่มที่เคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล : Ogaden National Liberation Front หรือ ONLF และOromo Liberation Front หรือ OLF (Daoud Ibsa)
เศรษฐกิจ เศรษฐกิจเอธิโอเปียเมื่อปี 2563 ได้รับผลกระทบอย่างมากจากปัญหาการแพร่ระบาดของ
โรค COVID-19 โดยเฉพาะภาคส่วนอุตสาหกรรมการให้บริการ การคมนาคม และการสื่อสาร ทำให้อัตรา
การเติบโตทางเศรษฐกิจเมื่อปี 2563 ลดลงอยู่ที่ 6.1% จากปี 2562 ที่มีอัตราการเติบโต 8.4% โดยภาคส่วนที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเอธิโอเปียคือ ภาคบริการและอุตสาหกรรม การส่งออกเพิ่มขึ้น 12% จากการส่งออกทองคำ ดอกไม้ และกาแฟเพิ่มขึ้น ทำให้การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงเป็น 4.4% ในขณะที่การนำเข้าลดลง 8.1% ส่วนด้านการคลังมีการขาดดุลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้ การกระตุ้นเศรษฐกิจของเอธิโอเปียขึ้นอยู่กับ
การแก้ไขปัญหาและการฟื้นฟูประเทศจากปัญหา COVID-19 โดยคาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอธิโอเปียในปี 2564 จะลดลงเหลือ 2% และจะเพิ่มขึ้นเป็น 8% ในปี 2565
สกุลเงิน ตัวย่อสกุลเงิน : เบอร์เอธิโอเปีย (Ethiopian Birr) หรือ ETB
อัตราแลกเปลี่ยนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ : 48.36 เบอร์เอธิโอเปีย
อัตราแลกเปลี่ยนต่อ 1 บาท : 1.44 เบอร์เอธิโอเปีย (ธ.ค.2564)
ดัชนีเศรษฐกิจสำคัญ (ปี 2563)
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) : 107,650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ : 6.1%
รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี : 936.34 ดอลลาร์สหรัฐ
แรงงาน : 54,994,539 คน
อัตราการว่างงาน : 2.79%
อัตราเงินเฟ้อ : 20.6%
ผลผลิตทางการเกษตร : ธัญพืช กาแฟ พืชน้ำมัน ฝ้าย อ้อย พืชผัก คัด (Khat) ไม้ตัดดอก หนังสัตว์ วัวควาย แกะ แพะ และปลา
ผลผลิตอุตสาหกรรม : การแปรรูปอาหาร เครื่องดื่ม สิ่งทอ หนัง เสื้อผ้า เคมีภัณฑ์ โลหะแปรรูป และซีเมนต์
ดุลการค้าระหว่างประเทศ : ขาดดุล 10,591 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
มูลค่าการส่งออก : 7,632 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้าส่งออก : กาแฟ พืชน้ำมัน ไม้ตัดดอก ถั่วเมล็ดแห้ง เนื้อแกะและเนื้อแพะ
คู่ค้าส่งออกที่สำคัญ : สหรัฐฯ จีน ซาอุดีอาระเบีย เยอรมนี เนเธอร์แลนด์
มูลค่าการนำเข้า : 18,223 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้านำเข้า : อากาศยาน เช่น บ. และ ฮ. เครื่องกังหันก๊าซ (Gas Turbine) ยา ผ้า ข้าวสาลี
คู่ค้านำเข้าที่สำคัญ : จีน ฝรั่งเศส อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร
คู่ค้าสำคัญ : จีน ฝรั่งเศส อินเดีย สหรัฐฯ
ทรัพยากรธรรมชาติ : มีปริมาณไม่มาก ได้แก่ ทอง แพลตตินัม ทองแดง โปแตส ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานน้ำ
การทหารและความมั่นคง
การทหาร : งบประมาณด้านการทหารเมื่อปี 2563 มีมูลค่า 472 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 4% ของ GDP กองทัพเอธิโอเปียได้รับความช่วยเหลือด้านการทหารจากกองกำลังสหประชาชาติ สหรัฐฯ และจีน กำลังพลรวม ทหาร 138,000 นาย ทบ. 135,000 นาย และ ทอ. 3,000 นาย
ยุทโธปกรณ์สำคัญ :
ทบ. ได้แก่ รถถังหลัก (MBT) รุ่น T-54/T-55/T-62 อย่างน้อย 246 คัน รุ่น T-72B จำนวน 215 คัน รถหุ้มเกราะลาดตระเวน (RECCE) รุ่น BRDM-1/BRDM-2 ประมาณ 100 คัน รถรบทหารราบ (IFV) รุ่น BMP-1 ประมาณ 20 คัน รถสายพานลำเลียงพลหุ้มเกราะ (APC) อย่างน้อย 300 คัน ยานหุ้มเกราะอเนกประสงค์ (AUV) รุ่น Ze’ev ยานหุ้มเกราะกู้ภัย (ARV) รุ่น T-54/T-55 และรุ่น BTS-5B สะพานปล่อยรถหุ้มเกราะ (VLB) รุ่น MTU ยานกู้ภัยทุ่นระเบิด (MW) ยานหุ้มเกราะติดอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง (MSL) ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังต่อสู้รถถัง (RCL) ปืนต่อสู้รถถังรุ่น D-44 ปืนใหญ่แบบต่าง ๆ อย่างน้อย 524 กระบอก อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ (SAM) ชนิดพิสัยกลาง รุ่น S-75 Dvina (SA-2 Guideline) พิสัยใกล้ รุ่น S-125 Pechora (SA-3 Goa) และป้องกันเป็นจุด (point-defence) รุ่น 9K32 Strela-2 (SA-7 Grail) รุ่น 96K6 Pantsir-S1 (SA-22 Greyhound) ไม่ปรากฏจำนวน ปืนต่อสู้ทางอากาศ (อัตตาจร (SP) รุ่น ZSU-23-4 Shilka และลากจูง (TOWED) รุ่น ZU-23 รุ่น M-1939 และรุ่น S-60)
ทอ. ได้แก่ บ.ขับไล่ (FTR) รุ่น Su-27 Flanker จำนวน 8 เครื่อง รุ่น Su-27UB Flanker จำนวน 3 เครื่อง บ.โจมตีภาคพื้นดิน (FGA) รุ่น MiG-23ML/UB Flogger G/C จำนวน 8 เครื่อง บ.โจมตี (ATK) รุ่น Su-25T Frogfoot 1 เครื่อง และรุ่น Su-25/UB Frogfoot 2 เครื่อง บ.ลำเลียง (TPT) ขนาดกลางและขนาดเบา จำนวน 15 เครื่อง บ.ฝึกรบ (TRG) จำนวน 18 เครื่อง ฮ.โจมตีจำนวน 18 เครื่อง (รุ่น Mi-24 Hind 15 เครื่อง และรุ่น Mi-35 Hind 3 เครื่อง) ฮ.อเนกประสงค์ (MRH) รุ่นต่าง ๆ จำนวน 19 เครื่อง อาวุธโจมตีทางอากาศสู่อากาศ (AAM) ประเภทนำวิถีด้วยอินฟราเรด (IR) และประเภท IR/Semi-Active RADAR Homing (SARH)
ปัญหาด้านความมั่นคง :
1) ความตึงเครียดระหว่างเอธิโอเปียกับประเทศใกล้เคียงเฉพาะอย่างยิ่งอียิปต์และซูดาน จากการที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน Grand Ethiopian Renaissance (GERD) บนต้นน้ำสายหลักของแม่น้ำไนล์ ซึ่งอียิปต์มีแม่น้ำไนล์เป็นแม่น้ำสายหลักและเป็นประเทศปลายน้ำ โดยเอธิโอเปียเริ่มดำเนินการเติมน้ำในเขื่อนครั้งแรกเมื่อ ก.ค.2563 และครั้งล่าสุดเมื่อ ก.ค.2564 คาดว่าขั้นตอนการเติมน้ำในเขื่อน GERD จะใช้เวลาประมาณ 4-7 ปี ทั้งนี้ การดำเนินการเติมน้ำในเขื่อนของเอธิโอเปียได้รับการประณามจากอียิปต์และซูดานว่าเป็นการกระทำเพียงฝ่ายเดียว และเรียกร้องให้ UNSC เข้าแทรกแซงและแก้ไขปัญหาดังกล่าว
2) ความขัดแย้งระหว่างพรรค Tigray People’s Liberation Front (TPLF) ในภูมิภาค Tigray ทางเหนือของเอธิโอเปียกับรัฐบาลเอธิโอเปีย โดยทั้งสองฝ่ายเริ่มสู้รบกันตั้งแต่ 4 พ.ย.2563 จนถึงปัจจุบันที่ยังไม่มีแนวโน้มจะคลี่คลาย ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน ประชาชนอยู่ในสภาวะอดอยากเกือบ 400,000 คน และมีผู้ลี้ภัยออกจากถิ่นฐานกว่า 2.5 ล้านคน รวมถึงลี้ภัยไปยังซูดาน ในขณะที่เอริเทรียให้การสนับสนุนรัฐบาลเอธิโอเปียในการส่งกองกำลังเข้าไปในภูมิภาค โดยกองกำลังของเอริเทรียถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงการข่มขืนในภูมิภาค Tigray ทำให้สหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรผู้นำกองกำลังเอริเทรีย (Eritrean Defence Forces) เมื่อ 23 ส.ค.2564 ทั้งนี้ การพิสูจน์ทราบข้อมูลในภูมิภาคทำได้ยากลำบาก เนื่องจากการสื่อสารถูกตัดขาด และหน่วยงานด้านความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไม่สามารถส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ได้ ปัจจุบันกลุ่ม TPLF อ้างว่าสามารถยึดพื้นที่ของภูมิภาค Tigray จากรัฐบาลได้ทั้งหมดแล้ว และขยายการโจมตีไปยังภูมิภาค Amhara และภูมิภาค Afar ที่อยู่ใกล้เคียง โดยนานาประเทศ อาทิ สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และอังกฤษ ห่วงกังวลว่าพื้นที่สู้รบจะขยายมาถึงกรุงแอดดิสอาบาบา ของเอธิโอเปียด้วย ทำให้ประเทศดังกล่าวเรียกร้องให้พลเมืองของตนเดินทางออกจากเอธิโอเปียโดยเร็วที่สุด
ความสัมพันธ์ไทย-เอธิโอเปีย :
ความสัมพันธ์ด้านการทูต
ไทยมีความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรกับเอธิโอเปีย โดยไทยเห็นความสำคัญของเอธิโอเปียในฐานะเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่สหภาพแอฟริกา และเป็นเสมือนเมืองหลวงของทวีปนี้ รวมทั้งเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญใน Horn of Africa ส่วนเอธิโอเปียเห็นความสำคัญของไทยในฐานะมิตรประเทศที่เป็นตัวอย่างในการพัฒนา
ไทยและเอธิโอเปียสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน เมื่อ 10 เม.ย.2507 และในปีเดียวกันไทยได้เปิด สอท. ณ กรุงแอดดิสอาบาบา แต่ต่อมาในปี 2524 ไทยได้ปิด สอท. ณ กรุงแอดดิสอาบาบาลง เนื่องจากความไม่สงบภายในเอธิโอเปีย ปัจจุบันได้มอบหมายให้ สอท. ณ ไคโร มีเขตอาณาครอบคลุมเอธิโอเปีย ในขณะที่เอธิโอเปียได้มอบหมายให้ สอท.เอธิโอเปียประจำอินเดีย มีเขตอาณาครอบคลุมไทย
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
เมื่อปี 2563 การค้าระหว่างไทย-เอธิโอเปีย มีมูลค่า 56.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออก 54.38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้า 2.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยได้เปรียบดุลการค้า 52.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วง ม.ค.-ต.ค.2564 การค้าไทย-เอธิโอเปีย มีมูลค่า 35.67 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออก 34.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้า 0.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า 33.70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้าที่ไทยส่งออกไปเอธิโอเปีย เมื่อปี 2563 ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ยางพารา เม็ดพลาสติก
สินค้าที่ไทยนำเข้า เมื่อปี 2563 ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผักและผลไม้ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ
ด้านการท่องเที่ยว เมื่อปี 2563 มีผู้ที่เดินทางจากเอธิโอเปียมาไทย จำนวน 2,451 คน โดยส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์รับการบริการด้านสุขภาพในไทย เนื่องจากไทยมีมาตรฐานการรักษาพยาบาลและการบริการที่มีคุณภาพที่ดี ค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมากนัก มีสายการบิน Ethiopian Airlines ที่บินตรงมาไทย และสามารถขอรับการตรวจลงตราที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ในปัจจุบันโรงพยาบาลเอกชนไทย 5 แห่ง (บำรุงราษฏร์ พญาไท เวชธานี กรุงเทพ และปิยะเวท) ได้ตั้งสำนักงานผู้แทนที่แอดดิสอาบาบา ทั้งนี้ เมื่อปี 2563 มีคนไทยในเอธิโอเปีย จำนวน 8 คน (มิ.ย.2563)
ปัญหาด้านความมั่นคง :
1) ความตึงเครียดระหว่างเอธิโอเปียกับประเทศใกล้เคียงเฉพาะอย่างยิ่งอียิปต์และซูดาน จากการที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน Grand Ethiopian Renaissance (GERD) บนต้นน้ำสายหลักของแม่น้ำไนล์ ซึ่งอียิปต์มีแม่น้ำไนล์เป็นแม่น้ำสายหลักและเป็นประเทศปลายน้ำ โดยเอธิโอเปียเริ่มดำเนินการเติมน้ำในเขื่อนครั้งแรกเมื่อ ก.ค.2563 และครั้งล่าสุดเมื่อ ก.ค.2564 คาดว่าขั้นตอนการเติมน้ำในเขื่อน GERD จะใช้เวลาประมาณ 4-7 ปี ทั้งนี้ การดำเนินการเติมน้ำในเขื่อนของเอธิโอเปียได้รับการประณามจากอียิปต์และซูดานว่าเป็นการกระทำเพียงฝ่ายเดียว และเรียกร้องให้ UNSC เข้าแทรกแซงและแก้ไขปัญหาดังกล่าว
2) ความขัดแย้งระหว่างพรรค Tigray People’s Liberation Front (TPLF) ในภูมิภาค Tigray ทางเหนือของเอธิโอเปียกับรัฐบาลเอธิโอเปีย โดยทั้งสองฝ่ายเริ่มสู้รบกันตั้งแต่ 4 พ.ย.2563 จนถึงปัจจุบันที่ยังไม่มีแนวโน้มจะคลี่คลาย ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน ประชาชนอยู่ในสภาวะอดอยากเกือบ 400,000 คน และมีผู้ลี้ภัยออกจากถิ่นฐานกว่า 2.5 ล้านคน รวมถึงลี้ภัยไปยังซูดาน ในขณะที่เอริเทรียให้การสนับสนุนรัฐบาลเอธิโอเปียในการส่งกองกำลังเข้าไปในภูมิภาค โดยกองกำลังของเอริเทรียถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงการข่มขืนในภูมิภาค Tigray ทำให้สหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรผู้นำกองกำลังเอริเทรีย (Eritrean Defence Forces) เมื่อ 23 ส.ค.2564 ทั้งนี้ การพิสูจน์ทราบข้อมูลในภูมิภาคทำได้ยากลำบาก เนื่องจากการสื่อสารถูกตัดขาด และหน่วยงานด้านความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไม่สามารถส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ได้ ปัจจุบันกลุ่ม TPLF อ้างว่าสามารถยึดพื้นที่ของภูมิภาค Tigray จากรัฐบาลได้ทั้งหมดแล้ว และขยายการโจมตีไปยังภูมิภาค Amhara และภูมิภาค Afar ที่อยู่ใกล้เคียง โดยนานาประเทศ อาทิ สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และอังกฤษ ห่วงกังวลว่าพื้นที่สู้รบจะขยายมาถึงกรุงแอดดิสอาบาบา ของเอธิโอเปียด้วย ทำให้ประเทศดังกล่าวเรียกร้องให้พลเมืองของตนเดินทางออกจากเอธิโอเปียโดยเร็วที่สุด