WHO
ระบุเมื่อ 30 ก.ค.64 เตือนถึงอันตรายของเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์เดลตา ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 ในห้วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา และขอให้รัฐบาลแต่ละประเทศเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ได้มากที่สุดก่อนจะเกิดการกลายพันธุ์เพิ่มขึ้นอีก
ระบุเมื่อ 30 ก.ค.64 เตือนถึงอันตรายของเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์เดลตา ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 ในห้วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา และขอให้รัฐบาลแต่ละประเทศเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ได้มากที่สุดก่อนจะเกิดการกลายพันธุ์เพิ่มขึ้นอีก
ประกาศเมื่อ 31 ก.ค.64 ขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐซาราวัก ไปจนถึง ก.พ.65 เพื่อระงับการเลือกตั้งระดับภูมิภาคท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรค COVID-19
ประกาศเมื่อ 31 ก.ค.64 ขยายมาตรการ Lockdown ในเมืองบริสเบน และอีกหลายพื้นที่ของรัฐควีนส์แลนด์ เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 สายพันธุ์เดลตา โดยมีผลบังใช้ในวันเดียวกัน
ระบุเมื่อ 30 ก.ค.64 ขอรับการสนับสนุนกำลังทหารประมาณ 300 นาย เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์เพื่อการบังคับใช้มาตรการ Lockdown อย่างเคร่งครัด ระหว่าง 2 ส.ค.-13 ก.ย.64
ระบุเมื่อ 30 ก.ค.64 บังคับใช้มาตรการ Lockdown ในกรุงมะนิลาระหว่าง 6-20 ส.ค.64 เพื่อป้องกันการขาดแคลนเตียงในห้อง ICU จากการที่ผู้ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์เดลตามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
แถลงเมื่อ 30 ก.ค.64 ขยายเวลาห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย ปากีสถาน เนปาล ศรีลังกา บังกลาเทศ โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าประเทศระหว่าง 1-15 ส.ค.64 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรค COVID-19 สายพันธุ์เดลตา
ประกาศเมื่อ 30 ก.ค.64 จะเริ่มต้นฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เข็มที่ 3 ให้ประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ทำให้อิสราเอลกลายเป็นประเทศแรกที่เสนอการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง
ประกาศเมื่อ 29 ก.ค.64 ให้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและลูกจ้างทุกคน ซึ่งมีประมาณ ๔ ล้านคน ฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 หากไม่ต้องการฉีด ให้สวมหน้ากากอนามัยระหว่างปฏิบัติงาน และรายงานผลการตรวจหาเชื้อเป็นระยะ
ระบุเมื่อ 30 ก.ค. 64 ว่า วัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ชนิดสูดดมซึ่งพัฒนาในจีน และทดลองในกลุ่มอาสาสมัครระยะแรก พบว่ามีความปลอดภัย และกำลังอยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิก ระยะที่ 2
ระบุเมื่อ 29 ก.ค.64 จะบริจาควัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ของ บ. AstraZeneca และ บ. Johnson & Johnson รวม 30 ล้านโดส ให้กับประเทศต่าง ๆ ระหว่าง ส.ค.-ธ.ค.64 เพื่อแก้ไขปัญหาวัคซีนคงเหลือเนื่องจากประชาชนส่วนหนึ่งปฏิเสธการเข้ารับวัคซีน