ราชอาณาจักรสวีเดน
Kingdom of Sweden
ราชอาณาจักรสวีเดน
Kingdom of Sweden
เมืองหลวง สตอกโฮล์ม
ที่ตั้ง ตั้งอยู่บนคาบสมุทรสแกนดิเนเวียทางตอนเหนือของทวีปยุโรป พื้นที่ 450,295 ตร.กม. แบ่งเป็นพื้นที่ทางบก 410,335 ตร.กม. และพื้นที่ทางน้ำ 39,960 ตร.กม. พรมแดนทางบกมีความยาวทั้งสิ้น 2,211 กม. และแนวชายฝั่งมีความยาวทั้งสิ้น 3,218 กม.
อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดกับนอร์เวย์ และฟินแลนด์ (545 กม.)
ทิศตะวันออก ติดกับอ่าวบอทเนีย
ทิศใต้ ติดกับทะเลบอลติก
ทิศตะวันตก ติดกับนอร์เวย์ (1,666 กม.)
ภูมิประเทศ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ บางแห่งเป็นเนินเขา พื้นที่ 58% เป็นป่าไม้ แต่มีพื้นที่เพาะปลูกเพียง 8%
วันชาติ 6 มิ.ย.
นาย Stefan Löfven
(นรม.สวีเดน)
ประชากร 10,353,442 คน (ปี 2563) เพิ่มขึ้น 0.7%
รายละเอียดประชากรเชื้อชาติสวีเดน 74.1% ซีเรีย 1.9% ฟินแลนด์ 1.4% อิรัก 1.4% และอื่น ๆ 21.2% อัตราส่วนประชากรจำแนกตามอายุ : วัยเด็ก (0-14 ปี) 17.62% วัยรุ่นถึงวัยกลางคน (15-64 ปี) 62.04% วัยชรา (65 ปี ขึ้นไป) 20.33% อายุขัยเฉลี่ย 82.95 ปี เพศชาย 81.3 ปี เพศหญิง 84.7 ปี อัตราการเกิด 11.1 คนต่อประชากร 1,000 คน และอัตราการตาย 8.6 คนต่อประชากร 1,000 คน
การก่อตั้งประเทศ
ก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 16 สวีเดนเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพคาลมาร์ (เกิดจากการรวมตัวของอาณาจักรต่าง ๆ ได้แก่ เดนมาร์ก นอร์เวย์และสวีเดน รวมถึงบางส่วนของฟินแลนด์ เข้าอยู่ภายใต้กษัตริย์องค์เดียวกัน)
ช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 สวีเดนได้ออกจากสหภาพคาลมาร์ และต่อสู้กับประเทศเพื่อนบ้านเป็นเวลาหลายปี โดยเฉพาะกับรัสเซีย เดนมาร์ก และนอร์เวย์ ที่ไม่ยอมรับการที่สวีเดนออกจากสหภาพคาลมาร์ คริสต์ศตวรรษที่ 17 สวีเดนได้ขยายอาณาเขตให้กว้างขวางออกไปด้วยการทำสงคราม
ปี 2457 สวีเดนสูญเสียพื้นที่อาณาเขต รวมถึงฟินแลนด์ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสวีเดน และนับตั้งแต่นั้น สวีเดนกลายเป็นประเทศที่สงบสุข มีการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในช่วงสันติ และวางตัวเป็นกลางระหว่างสงคราม
การเมือง สวีเดนมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีกษัตริย์เป็นประมุข
ฝ่ายบริหาร : สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ (King Carl XVI Gustaf) เป็นประมุขแห่งรัฐ (ระบอบกษัตริย์ใช้การสืบราชสันตติวงศ์ รัชทายาทองค์ปัจจุบัน ได้แก่ เจ้าหญิง Victoria Ingrid Alice Desiree พระราชธิดาในสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ล กุสตาฟ) ส่วน นรม. ได้แก่ นาย Stefan Löfven หัวหน้าพรรค Social Democratic Party (SAP) แนวคิดกลางซ้าย
พรรคการเมือง : ที่สำคัญ แบ่งเป็นพรรคการเมืองแนวคิดฝ่ายซ้าย ได้แก่ พรรค Social Democratic Party (SAP) พรรค Green Party (MP) และพรรค Left Party (V) ส่วนพรรคการเมืองแนวคิดฝ่ายขวา ได้แก่ พรรค Moderate Party (M) พรรค Liberal Party (L) พรรค Center Party (C) พรรค Christian Democrats (KD) และพรรค Sweden Democrats (SD)
ฝ่ายนิติบัญญัติหรือรัฐสภา : รัฐสภาใช้ระบบสภาเดียว จำนวนผู้แทน 349 ที่นั่ง มาจากการเลือกตั้งแบบสัดส่วนทั่วประเทศ มีวาระ 4 ปี ปัจจุบัน พรรค Social Democratic (SAP) ของ นรม.Stefan Löfven จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยร่วมกับพรรค Green (MP) มีที่นั่งในสภา 116 ที่นั่ง ส่วนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไปจะจัดใน ก.ย.2565
ฝ่ายตุลาการ : มีศาลสูงสุดหรือ Hogsta Domstolen ซึ่งผู้พิพากษาได้รับการแต่งตั้งโดย นรม. และ ครม.
เศรษฐกิจ มีลักษณะผสมผสานระหว่างระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมเสรีที่มีความก้าวหน้ากับระบบการจัดรัฐสวัสดิการ แรงงานมีทักษะสูง ระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนโดยภาคการบริการ คิดเป็นสัดส่วน 65.68% ของ GDP ปี 2563 ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วน 21.59% ของ GDP และภาคเกษตรกรรมมีสัดส่วนเพียง 1.37% ของ GDP อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ในการผลิตวิทยุ โทรศัพท์และอาวุธ ผลิตภัณฑ์จากเยื่อไม้ เยื่อกระดาษ อาหารแปรรูป และยานยนต์ ผลผลิตการเกษตรสำคัญ ได้แก่ ข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี เนื้อสัตว์ และนม ทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ ได้แก่ ไม้สัก ทองแดง เหล็ก ตะกั่ว สังกะสี ทองคำ เงิน ทังสเตน และยูเรเนียม ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลให้อุปสงค์โลกชะลอตัว กระทบภาคการส่งออก การบริโภคครัวเรือน และการจ้างงาน
สกุลเงิน ตัวย่อสกุลเงิน : โครนา (Swedish Krona-SEK)
อัตราแลกเปลี่ยนต่อดอลลาร์สหรัฐ : 1 โครนา : 0.12 ดอลลาร์สหรัฐ
อัตราแลกเปลี่ยนต่อบาท : 1 โครนา : 3.90 บาท (31 ต.ค. 2564)
ดัชนีเศรษฐกิจสำคัญ ปี 2563)
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) : 541,064 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ : -2.795%
รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี : 52,259 ดอลลาร์สหรัฐ
แรงงาน : 5,477,192 ล้านคน
อัตราการว่างงาน : 8.29%
อัตราเงินเฟ้อ : 0.49%
มูลค่าการส่งออก : 241,182 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้าส่งออก : เครื่องจักร ยานยนต์ ผลิตภัณฑ์จากกระดาษ เยื่อกระดาษและไม้ ผลิตภัณฑ์จากเหล็กและเหล็กกล้า และเคมีภัณฑ์
มูลค่าการนำเข้า : 216,194 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้านำเข้า : เครื่องจักร ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์ ยานยนต์ เหล็กและเหล็กกล้า อาหาร และเสื้อผ้า
คู่ค้าสำคัญ : เยอรมนี นอร์เวย์ ฟินแลนด์ เดนมาร์ก สหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร จีน
การทหารและความมั่นคง
งบประมาณด้านการทหารของสวีเดนเมื่อปี 2563 เท่ากับ 1.221 % ของ GDP กำลังพลรวม 14,600 นาย แยกเป็น ทบ. 6,850 นาย ทร. 2,100 นาย ทอ. 2,700 นาย อื่น ๆ 2,950 นาย สวีเดนรื้อฟื้นการบังคับเกณฑ์ทหารตั้งแต่ 1 ม.ค.2561 หลังจากเคยยกเลิกไปเมื่อปี 2553 โดยชายหญิงสัญชาติสวีเดนที่เกิดปี 2542 จะต้องยื่นเรื่องรายงานตัวเพื่อให้ทางการสวีเดนคัดเลือกไปเป็นทหาร มีวาระประจำการ 12 เดือน
ปัญหาด้านความมั่นคง
ความสัมพันธ์ไทย-สวีเดน
ไทยกับสวีเดนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อ 18 พ.ค.2411 โดยไทยและสวีเดนสนับสนุนและร่วมมือกันในเวทีการเมืองระหว่างประเทศด้วยดีมาโดยตลอด รวมทั้งในกรอบความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศนอร์ดิก (เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน) กรอบ EU อาเซียน และเอเชีย-ยุโรป (ASEM)
สำนักพระราชวังสวีเดนจัดพิธีอัญเชิญพระราชลัญจกรพิเศษ (ตราพระครุฑฟาห์) ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปยังโบสถ์รีดดาร์โฮล์ม (Riddarholmskyrkan) กรุงสต็อกโฮล์ม เมื่อ 26 ต.ค.2560 เวลา 11.55 น.ตามเวลาท้องถิ่น และมีพิธีตีระฆังแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตราเซราฟีม (The Order of the Seraphim) เป็นเวลา 1 ชม. ระหว่างเวลา 12.00-13.00 น. เพื่อถวายพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อนึ่ง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงได้รับการถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตราเซราฟีม ซึ่งเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของสวีเดนเมื่อ 5 เม.ย.2493 และเป็นแนวปฏิบัติที่สำนักพระราชวังสวีเดนจะจัดทำพระราชลัญจกรพิเศษ สำหรับพระประมุขที่ได้รับการถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ดังกล่าว
ด้านการค้า เมื่อปี 2563 สวีเดนเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 40 ของไทยและอันดับ 7 ของไทยใน EU มูลค่าการค้าไทย-สวีเดนอยู่ที่ 30,220 ล้านบาท ลดลง 11.40% ไทยส่งออกมูลค่า 10,775 ล้านบาท นำเข้ามูลค่า 19,445 ล้านบาท ไทยเสียเปรียบดุลการค้า 8,670 ล้านบาท
สินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ แผงสวิทซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องซักผ้าและเครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ สินค้านำเข้าสำคัญจากสวีเดน เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์
ด้านการลงทุน บริษัทชั้นนำของสวีเดนที่เข้ามาลงทุนในไทยอย่างน้อย 85 แห่ง อาทิ บริษัท SAAB (ด้านความมั่นคง และโครงการ Amata Aerospace City) บริษัท Volvo Truck (ผลิตและประกอบรถบรรทุก และชิ้นส่วนรถยนต์) บริษัท Electrolux (เครื่องซักผ้าและตู้เย็น) บริษัท Molnlycke Health Care (เสื้อกาวน์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์) บริษัท Scandinavian Village (โครงการที่พักสำหรับผู้สูงอายุ และ ผู้เกษียณ) บริษัทอิเกีย (เฟอร์นิเจอร์) เมื่อปี 2563 สวีเดนลงทุนในไทยเป็นมูลค่าประมาณ 759.75 ล้านบาท
ด้านแรงงาน อุตสาหกรรมผลไม้ป่าของฟินแลนด์พึ่งพาแรงงานต่างชาติเป็นหลัก โดยเฉพาะแรงงานไทย คิดเป็น 90% ของแรงงานต่างชาติทั้งหมด โดยเมื่อปี 2563 สวีเดนเปลี่ยนแปลงกฎหมายการเก็บภาษีแรงงานต่างชาติ (Special Income Tax-SINK tax) ส่งผลให้แรงงานที่เดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่าในสวีเดน ปี 2564 ผ่านการจ้างงานจากบริษัทนายจ้าง ต้องชำระภาษีประมาณ 25% ของรายได้ตามกฎหมาย หากมีระยะเวลาทำงานไม่เกิน 183 วัน/ปี ทั้งนี้ ประมาณการว่าคนงานจะมีรายได้ขั้นต่ำคงเหลือประมาณ 13,237.50-31,156.50 บาท หลังหักค่าใช้จ่ายและหักภาษี โดยห้วง ก.ค.-ก.ย.2564 สวีเดนต้องการแรงงานจากไทยจำนวน 5,200 คน ทำงานระยะสั้น ไม่เกิน 90 วัน
สอท.สวีเดน/กรุงเทพฯ มีเขตอาณาครอบคลุมลาวและเมียนมา และมีสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ 4 แห่ง อยู่ที่เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต และหัวหิน ขณะที่ไทยมี สอท.ไทย/สตอกโฮล์ม มีเขตอาณาครอบคลุมฟินแลนด์และลัตเวีย โดยในปี 2563 มีคนไทยในสวีเดนจำนวนประมาณ 4คน มีวัดไทย/สำนักสงฆ์ จำนวน 12 แห่ง สถานบริการนวดแผนไทยประมาณ 631 แห่ง สมาคมไทย 39 สมาคม
ด้านความมั่นคง สวีเดนให้ความสนใจกับปัญหาความมั่นคงของไทย โดยมีบทบาทสนับสนุนกระบวนการสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย และเพื่อนบ้านในภูมิภาค อาทิ สถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งสวีเดนมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือด้านการพัฒนาในเมียนมา ขณะเดียวกันก็เป็นแกนนำสนับสนุนให้มีการนำตัวผู้กระทำผิดในคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวโรฮีนจามาลงโทษ
ข้อตกลงสำคัญ : ไทยและสวีเดนมีข้อตกลงความร่วมมือภายใต้กรอบแผนปฏิบัติการร่วมไทย-สวีเดน (Joint Plan of Action) จำนวน 2 ฉบับ โดยฉบับที่ 2 คือ ระหว่างปี 2556-2560 เป็นการสานต่อจากแผนปฏิบัติการร่วมฉบับก่อนหน้า (ปี 2548-2552) เนื้อหาในแผนปฏิบัติการครอบคลุมถึงความร่วมมือระหว่างสองประเทศในมิติต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง ได้แก่ เกษตรกรรมและป่าไม้ การทหารและความมั่นคง การออกแบบ การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พลังงานและสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การท่องเที่ยวและบริการด้านสุขภาพ การฟื้นฟูหลังเหตุภัยพิบัติ การขยายความร่วมมือในโครงการพัฒนาระดับภูมิภาค และการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นระดับโลก นอกจากนี้ ไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายในการต่อต้านอาชญากรรมที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร การลักลอบค้ายาเสพติด วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และสารตั้งต้น การค้ามนุษย์ การก่อการร้ายและอาชญากรรมร้ายแรงอื่น ๆ เมื่อปี 2556
สถานการณ์สำคัญที่น่าติดตาม