สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
Republic of South Africa
สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
Republic of South Africa
เมืองหลวง พริทอเรีย
ที่ตั้ง ใต้สุดของทวีปแอฟริกา เส้นละติจูด 29 องศาใต้ และเส้นลองจิจูด 24 องศาตะวันออก พื้นที่โดยรวม 1,219,090 ตร.กม. มีชายแดนทางบกยาว 5,244 กม. และมีชายฝั่งยาว 2,798 กม.
อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดกับบอตสวานา (1,969 กม.) และซิมบับเว (230 กม.)
ทิศตะวันออก ติดกับโมซัมบิก (496 กม.) เอสวาตินี (438 กม.) และมหาสมุทรอินเดีย
ทิศใต้ ติดกับมหาสมุทรอินเดีย
ทิศตะวันตก ติดกับนามิเบีย (1,005 กม.) และมหาสมุทรแอตแลนติก
ตอนกลางประเทศเป็นที่ตั้งของเลโซโท มีพรมแดนติดกัน (1,106 กม.)
ภูมิประเทศ เป็นที่ราบกว้างใหญ่ ล้อมรอบด้วยเนินเขาและที่ราบชายฝั่งทะเล
ภูมิอากาศ มีฝนตกน้อยด้านชายฝั่งตะวันออก มีอากาศแบบกึ่งเขตร้อน อากาศอุ่นในตอนกลางวันและเย็นสบายในตอนกลางคืน
วันชาติ 27 เม.ย. (วันเสรีภาพของแอฟริกาใต้ เมื่อปี 2537)
Matamela Cyril Ramaphosa
ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ และประธานพรรค African National Congress (ANC)
ประชากร 59,308,690 คน (พ.ย. 2564)
รายละเอียดประชากร เป็นแอฟริกันผิวดำ 80.9% ผิวสี 8.8% ผิวขาว 7.8% อินเดียและเอเชีย 2.5% อัตราส่วนประชากรจำแนกตามอายุ : วัยเด็ก (0-14 ปี) 27.94% วัยรุ่นถึงวัยกลางคน (15-64 ปี) 65.97%
วัยชรา (65 ปีขึ้นไป) 6.09% อายุขัยเฉลี่ยของประชากรโดยรวม 65.04 ปี อายุขัยเฉลี่ยเพศชายประมาณ 63.68 ปี
อายุเฉลี่ยเพศหญิงประมาณ 66.42 ปี อัตราการเกิด 18.89 คนต่อประชากร 1,000 คน อัตราการตาย 9.27 คนต่อประชากร 1,000 คน อัตราการเพิ่มของประชากร 0.95%
การก่อตั้งประเทศ กลุ่มพ่อค้าชาวเนเธอร์แลนด์เดินทางมายังแอฟริกาใต้เมื่อปี 2195 และตั้งจุดพัก
บนเส้นทางการค้าเครื่องเทศระหว่างเนเธอร์แลนด์กับตะวันออกไกลขึ้นที่ Cape Town ต่อมาเมื่อปี 2349
สหราชอาณาจักรยึดแหลม Good Hope ทำให้ชาวเนเธอร์แลนด์ต้องอพยพขึ้นไปทางเหนือและตั้งเขตการ
ปกครองของตนเองขึ้น การพบแหล่งเพชรและทองคำในช่วงระหว่างปี 2410-2429 สร้างความร่ำรวยให้แก่ผู้ตั้ง
ถิ่นฐานเดิม และตั้งรัฐบัวร์ (Boer) ขึ้น ต่อมา มีผู้อพยพมายังแอฟริกาใต้เพิ่มขึ้น (ส่วนใหญ่มาจากสหราชอาณาจักร) ทำให้ชาวบัวร์ที่อาศัยอยู่เดิมถูกรุกราน ชาวบัวร์จึงทำสงครามต่อต้านสหราชอาณาจักร (Boer War) ระหว่าง
ปี 2442-2445 แต่พ่ายแพ้เมื่อปี 2491 ต่อมา ชาวอังกฤษและบัวร์ (หรือชาว Afrikaners) ร่วมกันบริหารประเทศตั้งแต่ปี 2453 ภายใต้ชื่อ สหภาพแอฟริกาใต้ (Union of South Africa) และปรับเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐเมื่อปี 2504 พรรคแห่งชาติที่มีชาว Afrikaners ได้เข้าบริหารประเทศเมื่อปี 2491 และประกาศ
ใช้นโยบาย Apartheid ซึ่งเป็นนโยบายแบ่งแยกสีผิวที่เอื้อประโยชน์ต่อคนผิวขาว ซึ่งเป็นชนส่วนน้อยและกดขี่ชาวผิวดำซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ พรรคสภาแห่งชาติแอฟริกัน (African National Congress-ANC) ต่อต้านนโยบาย Apartheid และผู้นำหลายคนถูกจับจำคุก รวมทั้งนาย Nelson Mandela ซึ่งถูกจำคุกนานถึง 27 ปี การประท้วงภายในประเทศและการกดดันจากนานาประเทศทำให้เกิดการเจรจาและตกลงจะถ่ายโอนอำนาจ
สู่การปกครองโดยคนส่วนใหญ่ รวมทั้งการปลดปล่อยนักโทษทางการเมือง ซึ่งนำไปสู่การเลือกตั้งหลายเชื้อชาติเมื่อปี 2537 ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดนโยบาย Apartheid และเริ่มการปกครองโดยรัฐบาลที่นำโดยพรรค ANC
การเมือง ปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุขและหัวหน้ารัฐบาล วาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี และดำรงตำแหน่งติดต่อกันได้ไม่เกิน 2 สมัย การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดเมื่อ 8 พ.ค.2562 เป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมของสภาผู้แทนราษฎร (National Assembly)
โดยประธานาธิบดี Cyril Ramaphosa ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีแอฟริกาใต้เมื่อ 22 พ.ค.2562 หลังจากชนะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ 8 พ.ค.2562 โดยการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งถัดไปจะมีขึ้นใน พ.ค.2567
ฝ่ายบริหาร : ประธานาธิบดีเป็นผู้แต่งตั้ง ครม.
ฝ่ายนิติบัญญัติ : ใช้ระบบ 2 สภา คือ National Council of Provinces สมาชิก 90 คน (โดยมาจากสมาชิกสภาประจำจังหวัด จังหวัดละ 10 คน) วาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี (หมายเหตุ สภานี้
มีอำนาจพิเศษในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ รวมทั้งปกป้องวัฒนธรรมและภาษาในชนกลุ่มต่าง ๆ )
และสภาผู้แทนราษฎร (National Assembly) สมาชิก 400 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรง วาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี การเลือกตั้งทั้งสองสภาครั้งล่าสุดเมื่อ 8 พ.ค.2562 และการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะมีขึ้นในปี 2567
ฝ่ายตุลาการ : ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา (Supreme Court of Appeal) ศาลสูง (High Court) และศาลชั้นต้น (Magistrates’ Courts)
พรรคการเมืองสำคัญ : พรรค African National Congress (ANC) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล และประธานาธิบดี Ramaphosa เป็นหัวหน้าพรรค พรรค Democratic Alliance (DA) พรรค Economic Freedom Fighters (EFF) พรรค Inkatha Freedom Party (IFP) และพรรค Freedom Front Plus (FF+)
กลุ่มที่เคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล Congress of South African Trade Unions หรือ COSATU พรรค South African Communist Party หรือ SACP องค์กร South African National Civics Organization หรือ SANCO ทั้งนี้ COSATU และ SACP อยู่ในกลุ่มพันธมิตร 3 ฝ่าย (Tripartite Alliance) ซึ่งสมาชิกที่เหลือ ได้แก่ African National Congress
เศรษฐกิจ แอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลาง เป็นตลาดใหม่ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ตลาดการเงินพัฒนา มีระบบกฎหมาย การสื่อสาร พลังงาน และระบบการขนส่งที่ดี ภาคเศรษฐกิจมีด้านบริการ อุตสาหกรรม และการเกษตร ตลาดหลักทรัพย์ของแอฟริกาใต้มีขนาดใหญ่ที่สุดในแอฟริกา และใหญ่ติดอันดับหนึ่งใน 20 ของโลก อย่างไรก็ดี แอฟริกาใต้ยังคงประสบปัญหาขาดแคลนกระแสไฟฟ้า การว่างงาน ความไม่เท่าเทียมกัน หรือความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสูง ทั้งนี้ แอฟริกาใต้มีการว่างงานสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเยาวชนผิวดำ
สกุลเงิน ตัวย่อสกุลเงิน : South African rand (ZAR)
อัตราแลกเปลี่ยนต่อดอลลาร์สหรัฐ : 1 ดอลลาร์สหรัฐ : 15.840 ZAR
อัตราแลกเปลี่ยนต่อบาท : 1 บาท : 0.469 ZAR (พ.ย.2564)
ดัชนีเศรษฐกิจสำคัญ (ปี 2563)
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) : 301,924 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ : -6.96%
เงินเฟ้อ : 3.2%
รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี : 5,090.72 ดอลลาร์สหรัฐ
แรงงาน : 14.687 ล้านคน
อัตราว่างงาน : 28.7%
ผลผลิตการเกษตร : ข้าวโพด ข้าวสาลี อ้อย ผลไม้ ผัก เนื้อวัว เนื้อสัตว์ปีก เนื้อแกะ ขนสัตว์ ผลผลิตจากนมวัว
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม : เหมืองแร่ (เป็นประเทศผู้ผลิตแพลทินัม ทองคำ และโครเมียม รายใหญ่ที่สุดของโลก) โรงงานผลิตรถยนต์เครื่องใช้โลหะ เครื่องจักรกล สิ่งทอ เหล็กและเหล็กกล้า เคมีภัณฑ์ ปุ๋ยเคมี ผลผลิตอาหาร และการซ่อมเรือพาณิชย์
ดุลการค้าระหว่างประเทศ : ได้เปรียบดุลการค้า 15,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
มูลค่าการส่งออก : 93,010 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้าส่งออก : ทองคำ เพชร แพลทินัม โลหะอื่น และสินแร่อื่น ๆ เครื่องจักรกลและอุปกรณ์
ประเทศส่งออกสำคัญ : จีน 15% สหราชอาณาจักร 8% เยอรมนี 7% สหรัฐฯ 6% อินเดีย 6%
มูลค่าการนำเข้า : 77,860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้านำเข้า : เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ และผลผลิตอาหาร
ประเทศนำเข้าสำคัญ : จีน 18% เยอรมนี 11% สหรัฐฯ 6% อินเดีย 5%
ทรัพยากรธรรมชาติ : ทองคำ โครเมียม พลวง ถ่านหิน สินแร่ เหล็ก แมงกานีส นิกเกิล ฟอสเฟต ดีบุก แร่ธาตุหายาก ยูเรเนียม อัญมณี เพชร แพลทินัม ทองแดง ธาตุโลหะสีขาวเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการทำเหล็ก อัลลอย เกลือ และก๊าซธรรมชาติ
การทหาร กองทัพแห่งชาติของแอฟริกา (South African National Defense Force-SANDF) ประกอบด้วย ทบ. ทร. ทอ. และหน่วยแพทย์ทหาร งบประมาณด้านการทหารเมื่อปี 2563 จำนวน 3,235 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 1.14% ของ GDP กำลังพลรวม : 74,500 นาย (ทบ. 38,200 นาย ทร. 6,800 นาย ทอ. 9,800 นาย หน่วยแพทย์ทหาร 7,400 นาย และอื่น ๆ 12,300 นาย) กองหนุน 15,050 นาย (ทบ. 12,250 นาย ทร. 850 นาย ทอ. 850 นาย หน่วยแพทย์ทหาร 1,100 นาย)
ยุทโธปกรณ์สำคัญ : ทบ. ได้แก่ รถถังหลัก (MBT) 24 คัน รถถังจู่โจม (ASLT) 50 คัน รถหุ้มเกราะทหารราบ (IFV) 534 คัน รถหุ้มเกราะลำเลียงพล (APC) 810 คัน รถหุ้มเกราะกู้ภัย (ARV) รุ่น Gemsbok รถถังทอดสะพาน (VLB) รุ่น Leguan ทุ่นระเบิดดักรถถัง (Mine Warfare) รุ่น Husky อาวุธนำวิถีต่อสู้รถถัง (MSL) ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังต่อสู้รถถัง (RCL) รุ่น M40A1 ปืนใหญ่ประเภทอัตตาจร (SP) ลากจูง (TOWED) ยิงระเบิด (MRL) และปืนครก (MOR) รวม 1,240 กระบอก อากาศยานไร้คนขับ จรวดต่อสู้อากาศยานพื้น
สู่อากาศ (SAM) และปืนต่อสู้อากาศยานประเภทอัตตาจร (SP) และลากจูง (TOWED) รวม 40 กระบอก
ทร. ได้แก่ เรือดำน้ำ เรือฟริเกต 4 ลำ เรือลาดตระเวนและเรือรบชายฝั่ง 4 ลำ เรือกวาดทุ่นระเบิด 2 ลำ และเรือส่งกำลังบำรุง 2 ลำ
ทอ. ได้แก่ เครื่องบินโจมตีพื้นดิน (FGA) 26 เครื่อง เครื่องบินขนส่ง (TPT) 24 เครื่อง และเครื่องบินสำหรับการฝึก (TRG) 59 เครื่อง เฮลิคอปเตอร์โจมตี (ATK) 11 เครื่อง เฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์ (MRH) 4 เครื่อง เฮลิคอปเตอร์ขนส่ง (TPT) 69 เครื่อง ขีปนาวุธจากกาศสู่อากาศ (AAM) และระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์
ความสัมพันธ์กับไทย
สาธารณรัฐแอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มีความสำคัญที่สุดประเทศหนึ่งสำหรับไทยในทวีปแอฟริกา โดยเฉพาะการเป็นหุ้นส่วนหลักทางยุทธศาสตร์ของไทยในความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม รัฐบาลไทยและแอฟริกาใต้ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการกงสุลระหว่างกันเมื่อ 9 มี.ค.2535 และได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อ 9 ธ.ค.2536
หน่วยราชการของไทยในแอฟริกาใต้ ได้แก่ สอท.ไทยประจำพริทอเรีย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ และสำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร ขณะที่แอฟริกาใต้ก็มี สอท.ประจำอยู่กรุงเทพฯ
ด้านการค้า แอฟริกาใต้เป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในทวีปแอฟริกา และอันดับที่ 26 ของไทยในโลก ทั้งนี้ เมื่อปี 2563 การค้าไทย-แอฟริกาใต้มีมูลค่า 2,600.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการส่งออกมูลค่า 2,128.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นำเข้ามูลค่า 471.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า 1,657.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยช่วง ม.ค.-ต.ค.2564 มูลค่าการค้าสองฝ่ายอยู่ที่ 3,189.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกเป็นมูลค่า 2,505.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าเป็นมูลค่า 684.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า 1,820.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้าส่งออกของไทย : รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ ข้าว ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเม็ดพลาสติก ส่วนสินค้านำเข้าจากแอฟริกาใต้ : สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องดื่มประเภทน้ำแร่ น้ำอัดลมและสุรา สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
แอฟริกาใต้มีความสำคัญทางเศรษฐกิจกับไทยมากที่สุดในทวีปแอฟริกา เนื่องจากเป็นประเทศที่มีวัตถุดิบมาก ประชาชนมีรายได้และอำนาจการซื้อมากกว่าประเทศใกล้เคียงอื่น อีกทั้งเป็นประตูการค้าสำคัญในการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ แอฟริกาใต้เป็นตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญของไทยในภูมิภาคแอฟริกา เมื่อปี 2563 แอฟริกาใต้เป็นประเทศคู่ค้าข้าวอันดับหนึ่งของไทย โดยไทยส่งออกข้าวไปยังแอฟริกาใต้ 672,777 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 9,925 ล้านบาท
ปัจจุบัน นักธุรกิจแอฟริกาใต้เข้ามาลงทุนในไทย อาทิ ธุรกิจสายการบิน อุตสาหกรรมเหล็ก
และเหล็กกล้า ผลไม้กระป๋อง และธุรกิจ e-commerce เป็นต้น นอกจากนี้ แอฟริกาใต้มีโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในไทยจำนวน 1 โครงการ เป็นอุตสาหกรรมเบา (อัญมณีและเครื่องประดับ) มูลค่า 7.3 ล้านบาท สำหรับธุรกิจไทยที่ลงทุนในแอฟริกาใต้ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ได้แก่ ร้านอาหาร และสปา จำนวนกว่า 20 ร้าน ปัจจุบัน มีการลงทุนขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น อาทิ กลุ่มธุรกิจบ้านปูลงทุนในธุรกิจการก่อสร้างโรงแรม เหมืองถ่านหิน กลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ลงทุนในธุรกิจค้าข้าว สินค้าเกษตรและอาหารแปรรูป บริษัทค้าสากลปูนซีเมนต์ไทยลงทุนธุรกิจค้าเม็ดพลาสติกและสินค้ากระป๋อง เมื่อปี 2553 บริษัทอิตาเลียนไทยลงทุนในธุรกิจก่อสร้างโรงแรมและสนามกอล์ฟ โรงงานผลิตสีสำหรับใช้กับถนนที่เมืองเดอร์บัน ซึ่งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมของไทยแห่งแรกในแอฟริกาตอนใต้ และบริษัท Thai Export 1980 (T Group) ได้เข้าไปเปิดศูนย์กระจายสินค้าในแอฟริกาใต้
สถานการณ์สำคัญที่น่าติดตาม
1) ความพยายามในการแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ ภายในแอฟริกาใต้ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ของประธานาธิบดี Cyril Ramaphosa โดยเฉพาะปัญหาการว่างงาน ซึ่งอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันแอฟริกาใต้เผชิญปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำและมีอัตราการว่างงานสูงถึง 28.7% จากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19
2) ปัญหาต่อต้านแรงงานต่างชาติ (Xenophobia) ในแอฟริกาใต้ ที่มีมาตั้งแต่ปี 2537 และเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อปี 2551 โดยเฉพาะแรงงานผิวดำจากประเทศอื่นในแอฟริกา เช่น ไนจีเรีย โดยชาวแอฟริกาใต้กล่าวหาว่า ชาวต่างชาติเข้ามาแย่งอาชีพ ทำให้ชาวแอฟริกาใต้ประสบความยากจน และว่างงานสูง
3) การแข่งขันการเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจในทวีปแอฟริการะหว่างแอฟริกาใต้กับไนจีเรีย
ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ของทวีปแอฟริกา
4) ความเป็นมหาอำนาจของแอฟริกาใต้ในภูมิภาค โดยมีบทบาทนำทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ
5) ปัญหายาเสพติด โดยแอฟริกาใต้เป็นศูนย์กลางการค้ายาเสพติดในภูมิภาคแอฟริกา Sub-Sahara และเป็นเส้นทางการขนส่งโคเคนและเฮโรอีนจากทวีปอเมริกาใต้และอัฟกานิสถานไปยังภูมิภาคยุโรป