การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับเด็กรุ่นใหม่ซึ่งจะเติบโตมาพร้อมกับปัญญาประดิษฐ์
เด็กในยุคปัจจุบันกำลังเติบโตมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จึงควรมีการพิจารณาผลกระทบของเทคโนโลยีที่มีต่อเด็กมากขึ้น เพื่อสิทธิและสวัสดิการเด็ก
งานในยุโรปกว่า 12 ล้านตำแหน่งจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโนยีระบบอัตโนมัติในปี 2583
บทวิเคราะห์ของทีมวิจัย Forrester ได้ทำนายว่า งาน 12 ล้านตำแหน่งจะหายไปเนื่องจากการถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัติ (automation technologies)
สิงคโปร์ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยบัญชีธนาคารทั่วประเทศ
ธนาคารกลางสิงคโปร์และสมาคมธนาคารสิงคโปร์ออกมาตรการบังคับให้ธนาคารป้องกันการหลอกลวงทาง SMS อาทิ ห้ามส่งข้อมูลที่มี link ในอีเมลและ SMS ให้แก่ลูกค้า และการกำหนดระยะเวลาหลังเปิดใช้งานซอฟต์แวร์ Token ยืนยันตัวตน 12 ชั่วโมง
สามเทคโนโลยีที่น่าจับตามองในปี 2565
เทคโนโลยีใหม่ในปี 2565 ที่จะมีอิทธิพลสร้างความพลิกผันต่อเทคโนโลยีปัจจุบัน (Disrupt) ได้แก่ 1) ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง 2) เงินดิจิทัล และ 3) เทคโนโลยีควอนตัม
อินเดียวิจัยนำเทคโนโลยีควอนตัมและปัญญาประดิษฐ์มาปรับใช้ภายในกองทัพ
กระทรวงกลาโหมอินเดีย ออกแถลงการณ์ว่า กองทัพอินเดียได้รับการสนับสนุนจากสำนักเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติอินเดีย (National Security Council Secretariat: NSCS) ให้จัดตั้งห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ควอนตัม
สหรัฐฯ กังวลว่าแฮกเกอร์อาจใช้คอมพิวเตอร์ควอนตัมถอดรหัสข้อมูลในปัจจุบันได้ภายใน 10 ปี
สหรัฐฯ กังวลว่าข้อมูลที่แฮกเกอร์ขโมยไปได้ในปัจจุบัน แม้ว่าแฮกเกอร์ยังไม่สามารถเปิดได้เนื่องจากข้อมูลถูกเข้ารหัส แต่แฮกเกอร์อาจสามารถใช้คอมพิวเตอร์ควอนตัมถอดรหัสได้ภายใน 10 ปี
นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะควบคุมปัญญาประดิษฐ์ที่มีสติปัญญาเหนือล้ำ
นุษย์ได้มีความกังวลว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) อาจล้มล้างมนุษยชาติมายาวนานหลายทศวรรษ แต่ยังไม่เคยมีหลักฐานหรือแนวคิดอย่างเป็นรูปธรรมในการพิสูจน์ข้อกังวลดังกล่าว กระทั่งเมื่อ 5 ม.ค.64 นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่ง (Manuel Alfonseca, et al, 2021) ได้ตีพิมพ์บทความวิจัยลงใน Journal of Artificial Intelligence Research ลงความเห็นว่า มนุษย์คงไม่สามารถควบคุมปัญญาประดิษฐ์ที่มีสติปัญญาเหนือล้ำ (Superintelligence AI) ได้
สหรัฐ ฯ ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์หน่วยงานด้านการคมนาคม
นายอเลฮานโดร มายอร์กาส (Alejandro Mayorkas) รมว.กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ แถลงว่า หน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทางของสหรัฐฯ (Transportation Security Administration: TSA) จะออกกฎหมายที่บังคับผู้ให้บริการสนามบินและรถไฟที่สำคัญของสหรัฐฯ
นักวิจัยกำลังศึกษาการคัดลอกและวางสมองมนุษย์ลงในชิปคอมพิวเตอร์
เว็บไซต์ thenextweb.com รายงานเมื่อ 27 ก.ย.64 ว่า นักวิจัยจากบริษัทซัมซุง ของเกาหลีใต้และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยแนวทางใหม่ในการสร้างชิปคอมพิวเตอร์ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น นั่นคือ การคัดลอกและวางสมองไปยังเครือข่ายหน่วยความจำ โดยเสนอให้คัดลอกแผนที่การเชื่อมต่อของเซลล์สมองโดยใช้อาร์เรย์นาโนอิเล็กโทรดแบบใหม่เพื่อบันทึกสัญญาณไฟฟ้าที่ผลิตโดยเซลล์ประสาท นักวิจัยได้เสนอวิธีคัดลอกเซลล์สมอง โดยใช้แผนที่การเชื่อมต่อของจุดประสานประสาท (synaptic) ของเครือข่ายเซลล์ประสาทของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมด้วยเครื่องมือทางประสาทวิทยาขั้นสูง จากนั้นวางแผนที่นี้ลงบนเครือข่ายสามมิติที่มีความหนาแน่นสูงของหน่วยความจำ Solid-State นักวิจัยอ้างว่าสิ่งนี้อาจทำให้ชิปหน่วยความจำใช้พลังงานใกล้เคียงกับสถานะการใช้พลังงานต่ำของสมอง เรียนรู้ได้ง่าย ปรับตัวได้เอง และมีความเป็นอิสระในการรับรู้ข้อมูล พวกเขากล่าวว่าวิธีการของพวกเขาสะท้อนถึงจุดมุ่งหมายดั้งเดิมของการคำนวณ neuromorphic ซึ่งเลียนแบบโครงสร้างประสาทของสมอง โดยเน้นไปที่การออกแบบชิปที่ “ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ” และนำมาใช้ทำวิศวกรรมย้อนกลับกับสมอง อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้อาจเป็นหนทางอีกยาวไกลจากการที่จะกลายเป็นความจริง เนื่องจากสมองมนุษย์มีเซลล์ประสาทประมาณ 100,000 ล้านเซลล์ และเกิดการเชื่อมต่อ synaptic หลายพันครั้ง นั่นหมายความว่าชิป neuromorphic ที่สมบูรณ์จะต้องมีหน่วยความจำประมาณ 100 ล้านล้านตัว การสร้างชิปดังกล่าวจึงเป็นความท้าทายอย่างมาก แต่นักวิจัยระบุว่าสิ่งนี้ช่วยขยายขอบเขตของเทคโนโลยี AI และเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ได้ ที่มา : https://thenextweb.com/news/samsung-harvard-scientists-want-copy-and-paste-brain-onto-computer-chips?utm_source=feedburner&utm_medium=feed&utm_campaign=Feed%3A+TheNextWeb+%28The+Next+Web+All+Stories%29
รัฐบาลสหราชอาณาจักรถูกกล่าวหาว่าแอบใช้งานเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าแบบเรียลไทม์
กลุ่มเสรีภาพพลเมืองกว่า 30 กลุ่มกล่าวหา กระทรวงมหาดไทยและตำรวจของสหราชอาณาจักรมีการใช้งานเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าแบบเรียลไทม์ (live facial recognition technology :LFRT) โดยเลี่ยงชี้แจงผ่านรัฐสภา