บางครั้งชีวิตจริงก็ดราม่ายิ่งกว่าในละคร ดูเหมือนผู้หญิงบางคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเราจะตกเป็นจำเลยของความรัก ทั้งรักเลยอยากแก้แค้น (แทน) เพราะรักจึงยอมพลีชีพ และเพราะสูญเสียผู้เป็นที่รักและเคว้งคว้างไม่เหลือใครเลยตัดสินใจก่อเหตุทิ้งทวนสดุดีความรักความศรัทธา สมาชิกชมรมจำเลยของความรักที่ว่าไม่ใช่ตัวเอกในละครที่ไหน แต่เป็นผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายท้องถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ที่ได้รับอิทธิพลจากกลุ่ม Islamic State (IS) หรือเป็นสมาชิกของกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ซะเอง แถมยังปรับเปลี่ยนบทบาทและมีส่วนร่วมในการก่อเหตุเขย่าขวัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ยิ่งเป็นระเบิดฆ่าตัวตาย ผู้หญิงก็ใจเด็ดไม่แพ้ผู้ชายนะจะบอกให้ !
ในอดีต เราอาจจะคุ้นเคยว่า ผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายมักมีหน้าที่ในการช่วยระดมเงินทุนและอำนวยความสะดวก เช่น นำพานักรบต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ จัดหาสิ่งของหรือวัสดุที่จำเป็นในการก่อเหตุ และเป็นช้างเท้าหลัง ดูแลสมาชิกในครอบครัวที่เหลือเท่านั้น แต่ในช่วงปี 2559-2563 มานี้ มีผู้หญิงที่เกี่ยวข้องหรือเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายได้พัฒนาเป็นผู้ก่อเหตุและผู้วางแผนก่อเหตุเช่นเดียวกับสมาชิกชายอกสามศอก ยิ่งรักก็ยิ่งมีความโกรธแค้นจากการสูญเสียสามี ลูก ๆ หรือสมาชิกในครอบครัว และยิ่งมุ่งมั่นที่จะแก้แค้นให้บุคคลอันเป็นที่รักและพร้อมที่จะสานต่ออุดมการณ์ นอกจากนี้ ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงสมัยนี้จะมาก่อเหตุเสียเอง ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เลยอาจให้ความสนใจตรวจสอบน้อยกว่าผู้ชาย ทำให้ผู้หญิงก่อเหตุสำเร็จหลายครั้ง และเพื่อให้เห็นเทรนด์ชัดเจนขึ้น ตอนนี้ นับเคสจำเลยของความรักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ก่อเหตุด้วยระเบิดฆ่าตัวตายในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ได้รวมแล้ว 5 ครั้ง เริ่มกังวลกันหรือยัง?
เคสดัง ๆ ที่น่าสนใจ เคสแรกเป็นการโจมตีโบสถ์ 3 แห่ง ที่เมืองสุราบายา อินโดนีเซีย เมื่อ พ.ค.61 ผู้ก่อเหตุเป็นครอบครัว 6 คน มีพ่อ แม่ ลูกชาย 2 คน และลูกสาว 2 คน ผู้เป็นพ่อเป็นสมาชิกกลุ่ม Jamaah Ansharut Daulah หรือ JAD ที่ประกาศสวามิภักดิ์กับกลุ่ม IS โดยพ่อและลูกชายไปก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่โบสถ์ 2 แห่ง ส่วนแม่และลูกสาวก็แยกไปก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่โบสถ์อีกแห่งหนึ่ง เหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายแบบยกครัวครั้งแรกในอินโดนีเซีย
ส่วนเคสที่ 2 เกิดขึ้น เมื่อ ส.ค.63 เป็นผู้หญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 คน เป็นภรรยาหม้ายของผู้ก่อการร้ายกลุ่ม Abu Sayyaf กลุ่มก่อการร้ายในฟิลิปปินส์ ก่อเหตุใช้ระเบิดฆ่าตัวตาย บริเวณด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ ในจังหวัด Sulu ในฟิลิปปินส์ แถมจนถึงตอนนี้ ทางการฟิลิปปินส์จับผู้หญิงที่ฝึกเพื่อเตรียมเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายได้อีกไม่ต่ำกว่า 10 คน (เฮ้อ…น่ากลัว)
แม้ในไทยยังไม่เคยพบเคสที่ผู้หญิงก่อเหตุฆ่าตัวตายเหมือนในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ แต่เห็นแบบนี้แล้วคงต้องถามว่าบ้านเรามีการเตรียมรับมือเผื่อสำหรับเรื่องแบบนี้แล้วหรือยัง เบื้องต้นคงต้องนึกตั้งแต่วิธีการลดแนวคิดรุนแรง ทำยังไงไม่ให้แนวคิดรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศรอบบ้าน มาถึงคนไทย เจ้าหน้าที่เราเองจะมีวิธีลดปัจจัยที่อาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงได้อย่างไร แล้วเยาวรุ่นทั้งหลาย ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ในไทย คงต้องช่วยกันเฝ้าระวัง เป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ และให้หมั่นสังเกตคนที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เพราะความรักความศรัทธาไม่เข้าใครออกใคร ที่แน่ ๆ อาจกระตุ้นหรือสร้างแรงจูงใจให้เขาคนนั้นทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อผู้อื่นและบ้านเมืองได้
——————————————————————-