สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 27 ก.ค.64 ว่า ประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน ของสหรัฐฯ เตือนว่า หากสหรัฐฯถูกโจมตีทางไซเบอร์ ก็อาจทำให้สหรัฐฯ ต้องก่อสงครามจริง โดยสหรัฐฯ ตระหนักถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากรัสเซียและจีน การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ถูกผลักดันให้เป็นวาระสำคัญ ในยุคของประธานาธิบดีไบเดน หลังจากที่สหรัฐฯถูกโจมตีทางไซเบอร์หลายครั้ง เช่น เหตุการณ์โจมตีบริษัทด้านการบริการจัดการระบบเครือข่าย SolarWinds, การโจมตีบริษัท Colonial Pipeline ซึ่งให้บริการท่อขนส่งน้ำมันในภาคตะวันออกของสหรัฐฯ, การโจมตีบริษัทแปรรูปเนื้อสัตว์ใหญ่ที่สุดในโลก JBS และบริษัทด้านซอฟต์แวร์ Kaseya การโจมตีทางไซเบอร์นี้สร้างผลกระทบทั้งในด้านเชื้อเพลิงและด้านอาหารในหลายพื้นที่ของสหรัฐ
ในระหว่างการประชุมสุดยอดที่กรุงเจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ ระหว่างประธานาธิบดี Joe Biden และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย เมื่อ 16 มิ.ย.64 ประธานาธิบดีไบเดนได้แสดงจำนวนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯที่ได้รับผลกระทบจากกลุ่มแฮกเกอร์ ซึ่งภายหลังการประชุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นของชาติของสหรัฐฯ ได้ติดต่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียในหัวข้อการโจมตีทางไซเบอร์อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดน ได้เน้นย้ำถึงภัยคุกคามจากจีน โดยอ้างถึงการที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนที่มุ่งมั่นกับความพยายามในการเป็นมหาอำนาจทางทหารและทางเศรษฐกิจให้ได้ในช่วงปี พ.ศ. 2563
จากการกล่าวสุนทรพจน์ต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (ODNI) และเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกประมาณ 120 คน ประธานาธิบดีไบเดนได้ขอบคุณสมาชิกหน่วยข่าวกรองรวมถึงกล่าวให้ความมั่นใจแก่เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองที่จะไม่ใช้แรงกดดังทางการเมืองต่อเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง โดย ODNI มีหน้าที่ดูแลหน่วยข่าวกรองอีก 17 แห่ง ซึ่งต่างจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีความขัดแย้งกับหน่วยข่าวกรองในหลายประเด็น และระหว่างวาระการดำรงตำแหน่งของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ได้เปลี่ยนผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองถึง 4 คน
ที่มา : https://www.reuters.com/world/biden-warns-cyber-attacks-could-lead-a-real-shooting-war-2021-07-27/