เว็บไซต์ zdnet รายงานเมื่อ 14 ต.ค.64 ว่า สำนักงานกรรมาธิการสารสนเทศของออสเตรเลียได้ตรวจพบว่าร้านสะดวกซื้อ 7-11 ได้ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าโดยการเก็บภาพใบหน้าซึ่งเป็นข้อมูลไบโอเมทริกซ์ที่ละเอียดอ่อน และไม่ได้แจ้งให้ลูกค้าทราบหรือได้รับการยินยอมจากลูกค้าอย่างเพียงพอ โดยระหว่าง มิ.ย.๖๓ – ส.ค.๖๔ ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ได้ทำผลสำรวจข้อมูลลูกค้าผ่านอุปกรณ์ แท็ปเล็ต ที่มีกล้องอยู่ในตัว พบว่าแท็ปเล็ตที่ใช้ในร้านสะดวกซื้อถึง 700 แห่ง ซึ่งจะจับภาพใบหน้าลูกค้า 2 ครั้ง นั้นก็คือระหว่างตอบแบบสำรวจ และหลังจากเสร็จสิ้นการสำรวจแล้ว
ขอบคุณภาพประกอบจาก Getty Images
หลังจากที่คณะกรรมาธิการสารสนเทศของออสเตรเลียทราบถึงกิจกรรมดังกล่าว จึงได้ดำเนินการสืบสวนตั้งแต่ ก.ค.64 และได้แจ้งผลการสืบสวนผ่านเว็บไซต์ oaic.gov.au ในรูปแบบเอกสารไฟล์ PDF พบว่า ร้านสะดวกซื้อ
7-11 เก็บภาพใบหน้าไว้บนแท็บเล็ต 20 วินาทีก่อนที่จะอัปโหลดไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ปลอดภัย โดยใช้ระบบคลาวด์ของไมโครซอฟต์ (Microsoft Azure) จากนั้นภาพใบหน้าจะถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์เป็นเวลา 7 วัน เพื่อให้ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สามารถระบุข้อมูล แก้ไขปัญหา และประมวลผลการตอบแบบสำรวจอีกครั้ง และร้านสะดวกซื้อ 7-11 ยังอ้างอีกว่า ได้รับความยินยอมจากลูกค้าที่เข้าร่วมการสำรวจเนื่องจากมีประกาศบนเว็บไซต์ 7-11 และแบบฟอร์มที่ใช้ในการตอบแบบสอบถามก็อยู่บนเว็บไซต์อีกด้วย (ผลสำรวจ ณ มี.ค.64 เสร็จสิ้นไปแล้วถึง 1.6 ล้านราย)
อย่างไรก็ตามนาง แองเจลีน ฟอล์ค กรรมาธิการข้อมูลและคณะกรรมาธิการด้านความเป็นส่วนตัวของออสเตรเลีย ระบุว่า การรวบรวมข้อมูลไบโอเมตริกซ์ที่มีความละเอียดอ่อนจำนวนมาก ถือเป็นการละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวของออสเตรเลีย และไม่จำเป็นเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการทำความเข้าใจและปรับปรุงประสบการณ์ในร้านของลูกค้า อีกทั้งยังสั่งให้ร้านสะดวกซื้อ 7-11 หยุดการกระทำดังกล่าวและลบข้อมูลใบหน้าทั้งหมดที่ได้รวบรวมมา
ที่มา : https://www.zdnet.com/article/7-eleven-collected-customer-facial-imagery-during-in-store-surveys-without-consent/
