สหรัฐฯ กังวลว่าข้อมูลที่แฮกเกอร์ขโมยไปได้ในปัจจุบัน แม้ว่าแฮกเกอร์ยังไม่สามารถเปิดได้เนื่องจากข้อมูลถูกเข้ารหัส แต่แฮกเกอร์อาจสามารถใช้คอมพิวเตอร์ควอนตัมถอดรหัสได้ภายใน 10 ปี
คอมพิวเตอร์ควอนตัมทำงานแตกต่างจากคอมพิวเตอร์ทั่วไปในปัจจุบันอย่างมาก สามารถทำงานได้เร็วมากขึ้น แก้ปัญหาที่เครื่องคอมพิวเตอร์ปัจจุบันไม่สามารถทำได้ และสามารถทำลายอัลกอริธึมการเข้ารหัสเพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจำนวนมากที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เช่น ความลับส่วนบุคคล ความลับทางการค้า และความลับของรัฐ แม้ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ควอนตัมอยู่ในช่วงเริ่มต้น มีราคาแพงและเต็มไปด้วยปัญหามากมาย แต่ความพยายามที่จะปกป้องประเทศจากอันตรายระยะยาวนี้ จำเป็นต้องเริ่มต้นทันที
นายดัสติน มูดี้ (Dustin Moody) นักคณิตศาสตร์จากสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติของสหรัฐฯ (NIST) ระบุว่า “ภัยคุกคามดังกล่าวคือการที่แฮกเกอร์จะคัดลอกข้อมูลที่เข้ารหัส และเก็บไว้จนกว่าพวกเขาจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัม”
กลยุทธ์เก็บเกี่ยวตอนนี้เพื่อถอดรหัสในภายหลัง ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐฯ ของสหรัฐฯ พยายามพัฒนาและปรับใช้อัลกอริธึมการเข้ารหัสแบบใหม่เพื่อปกป้องความลับ ซึ่งรวมถึงกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Department of Homeland Security : DHS) ที่มีแผนการดำเนินงานเช่นกัน โดยเริ่มจากการเรียกร้องให้จัดทำรายการข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่สุด ทั้งในภาครัฐและในโลกธุรกิจ
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าอาจต้องใช้เวลาถึงสิบปีหรือนานกว่านั้นที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมจะสามารถใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ได้ แต่ด้วยเงินทุนที่หลั่งไหลเข้ามาในภาคควอนตัมทั้งในจีนและสหรัฐฯ ซึ่งต่างกำลังแข่งขันกัน กำลังทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่ปี 2559 สหรัฐฯ ได้จัดให้มีการแข่งขันผ่าน NIST เพื่อประกวดออกแบบการป้องกันภัยคุกคามจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างอัลกอริธึมป้องกันการถอดรหัสด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัมภายในปี 2567
การเปลี่ยนไปใช้การเข้ารหัสแบบใหม่ เป็นงานที่ยุ่งยาก ใช้เวลานาน และง่ายต่อการละเลย จนอาจสายเกินไป อีกทั้งเป็นเรื่องยากที่จะทำให้องค์กรที่แสวงหาผลกำไร ลงทุนกับภัยคุกคามในอนาคตที่เป็นนามธรรมในอีกหลายปีข้างหน้า ก่อนที่ภัยคุกคามนั้นจะกลายเป็นจริง
ในขณะที่องค์กรต่างๆ เริ่มพิจารณาถึงภัยคุกคามที่กำลังใกล้เข้ามา ได้มีบริษัทหลายแห่งเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าเข้ารหัสปกป้องข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้ แต่เจ้าหน้าที่ DHS ได้เตือนอย่างชัดเจนว่าอย่าซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านั้น เนื่องจากยังไม่มีฉันทามติว่าระบบดังกล่าวต้องทำงานอย่างไร NIST แนะนำว่าองค์กรต่าง ๆ ควรรอจนกว่าจะมีมาตรฐานเชิงพาณิชย์ มีมาตรการการตรวจสอบอย่างเข้มงวด และเป็นที่ยอมรับทั่วโลกก่อน
ที่มา : https://www.technologyreview.com/2021/11/03/1039171/hackers-quantum-computers-us-homeland-security-cryptography/