เนเธอร์แลนด์
ระบุเมื่อ 30 พ.ย.64 ยืนยันการตรวจพบเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอนครั้งแรกในเนเธอร์แลนด์ เมื่อ 19 พ.ย.64 หรือประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนมีรายงานตรวจพบผู้ติดเชื้อรายแรกในภูมิภาคแอฟริกา
กรีซ
ระบุเมื่อ 30 พ.ย.64 จะออกข้อบังคับให้ผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี ฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ซึ่งผู้ที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีนต้องระวางโทษปรับ 100 ยูโร (ประมาณ 3,815 บาท) คาดว่า รัฐสภากรีซจะมีมติเห็นชอบข้อเสนอดังกล่าว และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 16 ม.ค.65
อินเดีย
ระบุเมื่อ 30 พ.ย.64 ยกระดับมาตรการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ตั้งแต่ 1 ธ.ค.64 เวลา00.01 น. โดยผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงตามประกาศ สธ.อินเดีย อาทิ จีน นิวซีแลนด์ บราซิล บอตสวานา สิงคโปร์ และแอฟริกาใต้ จะต้องตรวจหาเชื้อ COVID-19 เมื่อเดินทางถึงอินเดีย และกักตัวในที่พักอาศัย 7 วัน
เกาหลีใต้
ระบุเมื่อ 30 พ.ย.64 บริจาควัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ของบริษัท AstraZeneca ให้ฟิลิปปินส์539,000 โดส เพื่อให้การฉีดวัคซีนมีความต่อเนื่อง และพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี
องค์การอนามัยโลก (WHO)
ระบุเมื่อ 30 พ.ย.64 โครงการ COVAX ของ WHO และพันธมิตรเตรียมแผนจัดสรรวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ของบริษัท AstraZeneca ให้เกาหลีเหนือเพิ่มเติม 4.7 ล้านโดส แต่เกาหลีเหนือยังไม่ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว
สิงคโปร์
ประกาศเมื่อ 30 พ.ย.64 จะยกระดับมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอน ตั้งแต่ 3 ธ.ค.64 อาทิ ตรวจหาเชื้ออย่างเข้มงวดในผู้เดินทางเข้าหรือต่อเครื่องบินที่สิงคโปร์ และกำหนดให้นักท่องเที่ยวกลุ่ม Vaccinated Travel Lane (VTL) ต้องตรวจเชื้อเพิ่มขณะพำนักในสิงคโปร์
สิงคโปร์
ระบุเมื่อ 30 พ.ย.64 ไม่อนุญาตให้ผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอน รวมทั้งผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรักษาตัวในที่พัก แต่จะต้องกักตัวที่ศูนย์ควบคุมโรค และไม่สามารถออกจากสถานที่กักตัวจนกว่าแพทย์จะอนุญาต