Moody’s Investors Service บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก รายงานเมื่อ 30 พ.ย.64 ว่า โรค COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) อาจฉุดรั้งอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก อีกทั้งจะซ้ำเติมภาวะเงินเฟ้อให้สูงขึ้น ท่ามกลางปัญหาทางเศรษฐกิจโลกที่มีอยู่เดิม ทั้งการติดขัดของห่วงโซ่อุปทาน และการขาดแคลนแรงงาน ขณะเดียวกัน จะทำให้ความต้องการสินค้าและบริการทั่วโลกในช่วงเทศกาลปลายปี 2564 ลดลง และหากการระบาดรุนแรง จะทำให้เกิดภาวะตึงตัวทางการเงินและการชำระหนี้ เนื่องจากทั่วโลกจะจำเป็นต้องเบิกจ่ายงบประมาณจำนวนมาก เพื่อรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ นอกจากนี้ กลุ่มประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากการระบาดครั้งนี้มากที่สุด ได้แก่ ประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ พึ่งพาการท่องเที่ยวระดับสูง และมีขีดความสามารถในด้านการเงินและการคลังจำกัด
ขณะที่ Fitch Ratings ระบุในวันเดียวกันว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบจากสายพันธุ์โอไมครอน แต่ในกรณีที่สายพันธุ์ดังกล่าวระบาดรุนแรงเป็นวงกว้าง อาจส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจโลกถดถอยเหมือนกับช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ซึ่งภาวะเงินเฟ้อที่กำลังสูงขึ้นจะเป็นปัจจัยที่ทำให้การรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนมีความซับซ้อนมากขึ้น