สำนักข่าวอิระวดี รายงานเมื่อ 4 ก.พ.65 ว่า ศาลเมียนมาตั้งข้อหาต่ออองซานซูจี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา เพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา ฐานความผิดตามกฎหมายต่อต้านการทุจริตจากกรณีการรับเงินบริจาคแบบผิดกฎหมายของมูลนิธิดอขิ่นจี ซึ่งอองซานซูจีเป็นผู้ก่อตั้ง จำนวน 550,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้อองซานซูจีถูกดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต รวม 11 ข้อหา (โทษจำคุกสูงสุดข้อหาละ 15 ปี) และถูกตั้งข้อหารวมทั้งหมด 18 ข้อหา (นอกเหนือจากคดีทุจริตคือ คดีอาญา 5 ข้อหา คดีละเมิดกฎหมายความลับราชการ 1 ข้อหา (โทษจำคุกสูงสุด 14 ปี) และคดีการทุจริตการเลือกตั้ง 1 ข้อหา) ซึ่งหากศาลเมียนมาตัดสินว่ามีความผิด อองซานซูจีจะถูกจำคุกอย่างน้อย 179 ปี จากปัจจุบันอองซานซูจีต้องโทษจำคุก รวมทั้งสิ้น 6 ปี (เมื่อ ธ.ค.64 ถูกสั่งจำคุก 4 ปี แต่ลดโทษเหลือ 2 ปี และเมื่อ 10 ม.ค.65 ถูกสั่งจำคุกเพิ่มอีก 4 ปี) แต่ถูกคุมขังไว้ภายในบ้านพักที่กรุงเนปยีดอ ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า อองซานซูจีมีปัญหาสุขภาพ ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมการพิจารณาคดี เมื่อ 3 ก.พ.65 โดยมีอาการวิงเวียนศีรษะและคลื่นไส้ ส่วนการพิจารณาคดีครั้งต่อไปจะจัดใน 10 ก.พ.65