หนังสือพิมพ์ Global Times รายงานเมื่อ 2 ก.พ.65 ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product-GDP) ของจีนที่ขยายตัวร้อยละ 8.1 เมื่อปี 2564 มีมูลค่า 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่า GDP ของ 27 ประเทศในยุโรปรวมกันที่มีมูลค่าประมาณ 15.73 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้จีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่ายุโรปเป็นครั้งแรกและเร็วกว่าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( International Monetary Fund-IMF) คาดการณ์ไว้เมื่อ ต.ค.64 ว่า จีนจะมี GDP ใหญ่กว่ายุโรปในปี 2565 โดย GDP ของยุโรปห้วงไตรมาสแรกของปี 2564 ใหญ่กว่าจีน แต่จีนสามารถกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจด้านยานพาหนะพลังงานใหม่ และปัญญาประดิษฐ์ แม้เผชิญการระบาดของ COVID-19 จนเอาชนะยุโรปได้ในช่วงหลัง อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาเรื่องรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากร จีนยังเป็นรองยุโรปและสหรัฐฯ โดยรายได้ต่อหัวของประชากรจีนอยู่ที่ 12,551 ดอลลาร์สหรัฐต่อหัวต่อปีเมื่อปี 2564 ใกล้เคียงกับระดับประเทศที่มีรายได้สูงตามเกณฑ์ของธนาคารโลก ขณะที่รายได้ต่อหัวของประชากรสหรัฐฯ และยุโรป สูงกว่าจีน 6 เท่าและ 3.6 เท่าตามลำดับ