ฟิลิปปินส์
ระบุเมื่อ 6 มี.ค.65 จะเริ่มบังคับใช้ข้อตกลงยอมรับร่วมในเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 กับไต้หวัน ตั้งแต่ 8 มี.ค.65
ระบุเมื่อ 6 มี.ค.65 จะเริ่มบังคับใช้ข้อตกลงยอมรับร่วมในเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 กับไต้หวัน ตั้งแต่ 8 มี.ค.65
ระบุเมื่อ 6 มี.ค.65 Sheba Medical Center อยู่ระหว่างทดสอบวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 สำหรับสายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะ ซึ่งจะฉีดวัคซีนดังกล่าวให้อาสาสมัครที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ครบโดสแล้ว จำนวน 180 ราย
ระบุเมื่อ 6 มี.ค.65 บรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ให้ประชาชนครบโดส 100 ล้านคน
ระบุเมื่อ 6 มี.ค.65 เชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนยังคงเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดหลักในปัจจุบัน โดยผลการสุ่มตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างเชื้อ COVID-19 จำนวน 74 ตัวอย่าง ระหว่าง 1-22 ก.พ.65 พบเป็นเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนทั้งหมด
ระบุเมื่อ 5 มี.ค.65 เริ่มผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรค COVID-19 อาทิ ยกเลิกข้อกำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะเฉพาะภายนอกอาคาร และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
ถึงแม้ Ethereum จะยังมีปริมาณผู้ใช้งาน และมีส่วนแบ่งการถือครองตลาด (ETH.D) ในอุตสาหกรรม Cryptocurrency ปัจจุบันอยู่ที่ 18.5% ซึ่งมากที่สุดรองลงมาจาก Bitcoin อีกทั้งมีแผนการเปิดตัวโครงการ Ethereum 2.0 ภายในปีนี้ แต่ราคาปัจจุบันของ Ethereum ก็ยังคงไม่สามารถหลุดออกจากตลาดขาลงได้เช่นเดียวกับ Bitcoin และเหรียญอื่นๆที่เป็นคู่แข่งในตลาด อนึ่ง ราคา Ethereum ขณะนี้ยังคงอยู่ในภาวะไร้ทิศทาง (sideway) ขยับขึ้น-ลงอยู่ในกรอบระหว่างแนวรับและแนวต้านที่บริเวณราคา $2,300-$3,300 มาตลอด 2 เดือน เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดยังมีความกังวลถึงสภาวะสงคราม และแผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่จะเกิดขึ้นในมีนาคม 2565 อย่างไรก็ดี จากลักษณะการเคลื่อนที่ของกราฟราคาและแท่งเทียนในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา บ่งชี้ให้เห็นว่าแนวรับตามเส้นสีเขียว (ภาพที่ 1) บริเวณราคา $2,300 นั้นค่อนข้างมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะสามารถรับราคา Ethereum ไว้ได้ โดยไม่หลุดลงไปเลยจากการที่ตลาดถูกเทขายในช่วงที่ผ่านมา แท่งเทียนแสดงราคา Ethereum มีการปิดแท่งแบบทิ้งไส้ (doji candle) ปฏิเสธราคาที่แนวรับไว้อย่างต่อเนื่อง พิจารณาด้วยมุมมองเชิงเทคนิค…
เหรียญ BNB ของบริษัท Binance กระดานซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีฐานลูกค้าใหญ่ที่สุดในโลก และมีเทคโนโลยี Blockchain รูปแบบเดียวกับ Ethereum แต่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไข้ข้อด้อยด้านค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม (scalability) ของ Ethereum ทำให้ Binance มีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า และเป็นที่นิยมมากกว่า Ethereum ไม่ว่าจะในมิติของระบบการกู้เงินผ่านธนาคารไร้ศูนย์กลาง (lending protocol) หรือ ระบบการฝากประจำสินทรัพย์เพื่อรับดอกเบี้ย (locked staking) ปัจจัยเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้เหรียญ BNB มีอัตราการเจริญเติบโตมากกว่า 2,000% ในช่วงปี 2564 จนราคาพุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่บริเวณ $670 ก่อนเข้าสู่ตลาดขาลงตาม Bitcoin เมื่อช่วงพฤษภาคม ปี 2564 และราคาร่วงลงไปถึงบริเวณแนวรับเส้นสีแดง (ตามภาพที่ 1) ที่ $225 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญประจำปี 2564 เพราะสามารถรับราคา BNB ไว้ได้ตลอดทุกครั้งในช่วงตลาดขาลงรอบที่ผ่านมา ดังจะเห็นได้จากการปฏิเสธราคาที่รุนแรงถึง 2 ครั้ง จนเกิดไส้เทียนที่มีความยาวมากกว่า 30 จุด สะท้อนว่าแนวรับดังกล่าวมีความแข็งแรงและตอบรับกับความเชื่อของนักลงทุนในตลาดทั่วโลก…
Dogecoin เป็นเหรียญล้อเลียนเหรียญหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากชุมชนออนไลน์หลายแห่งทั่วโลก ทั้งในไทย สหรัฐฯ และในยุโรป เนื่องจากเป็นเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยแนวคิดคล้ายๆกับ Bitcoin ที่ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของที่แท้จริง (decentralized protocol) อีกทั้งยังมีกระบวนการทำเหมือง (proof-of-work mechanism) รูปแบบเดียวกับ Bitcoin ด้วย ทำให้นักลงทุนหลาย ๆ กลุ่มรวมถึงบริษัทบางบริษัทเริ่มเข้ามาเก็งกำไรกับเหรียญ Dogecoin มากขึ้นเมื่อปี 2564 จนราคาพุ่งขึ้นจาก 10 สตางค์มาเป็น 2.6 บาท และทำราคาสูงสุดที่เกือบ 23 บาทในช่วงกลางปี ก่อนจะร่วงลงมาเหลือ 5.2 บาท ตามกระแสการเทขาย Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลตัวอื่น ๆ ในช่วงตลาดขาลง และเข้าสู่สภาวะเคลื่อนที่แบบไร้ทิศทาง (sideway) ตามกรอบระหว่าง 5.2 บาทและ 11.65 บาท ตลอดระยะเวลากว่า 7 เดือน จนถึงช่วงสิ้นปี 2564 และเริ่มเคลื่อนที่ในลักษณะเกาะโซนแนวรับ 5.2 บาทมากยิ่งขึ้น ในช่วงปลายปีและต้นปี 2565…
Kub เหรียญยอดนิยมของนักลงทุนชาวไทย และบริษัท Bitkub ที่มีข่าวการเข้าร่วมทุนและธุรกิจกับคู่ค้าจำนวนมากอย่างต่อเนื่องเมื่อช่วงปลายปี 2564 นั้น ปัจจุบันยังคงมีราคาปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง และได้ทะลุแนวรับที่ราคา 310 บาทลงมาอยู่ใต้เส้นสีม่วง (ตามภาพที่ 1) แล้ว โดยยังไม่มีแนวโน้มที่จะแสดงสัญญาณการกลับตัวจากตลาดขาลงเป็นตลาดขาขึ้นในช่วงเร็วๆนี้ ภาพรวมขณะนี้จึงมีแนวโน้มว่าจะยังคงอยู่ในสภาวะไร้ทิศทาง (sideway) ในกรอบระหว่างราคา 250-300 บาทต่อไป จนกว่าจะสามารถหลุดออกไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งภายในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ดี การที่เหรียญ Kub สามารถทะลุออกมาอยู่เหนือแนวต้านเส้นทแยงสีเขียวเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมาถือเป็นกรณีที่ดี เนื่องจากเส้นสีเขียวดังกล่าวจะเปลี่ยนจากแนวต้านไปเป็นแนวรับหลักที่คอยซับราคาให้แก่เหรียญ Kub ไม่ให้ร่วงเกินขอบเขตที่เส้นสีเขียวกางเอาไว้ได้ ในเชิงเทคนิคัล ปัจจุบันได้ปรากฏให้เห็นแท่งเทียนราคาของเหรียญ Kub กำลังทิ้งไส้ (shooting star candlestick pattern) ที่แสดงออกถึงการปฏิเสธราคาบริเวณแนวต้าน ทำให้มุมมองของนักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่อาจจะเชื่อว่าเหรียญ Kub มีแนวโน้มจะยังต้องปรับตัวลงต่อ โดยมีเป้าราคาอยู่ที่บริเวณ 230 บาทและ 200 บาทตามลำดับ เมื่อนักลงทุนจำนวนมากคิดในลักษณะนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ การตั้งคำสั่งซื้อเพื่อรอช้อนเหรียญในแนวรับเดียวกันที่บริเวณ 200 บาท ราคาของเหรียญ Kub จึงไม่สามารถขยับออกไปจากบริเวณดังกล่าวนี้ได้…
นับตั้งแต่เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน จนนำมาซึ่งการยกกำลังทางทหารจำนวนมากเข้าไปในยูเครนของรัสเซีย แต่ละประเทศต่างมีท่าทีต่อกรณีดังกล่าวที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะการประณามการกระทำของรัสเซีย ที่จนถึงวันนี้หลายประเทศใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญยังคงเลือกที่จะงดออกเสียง โดยเฉพาะจีน และอินเดีย อินเดียถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากถูกคาดหวังอย่างมากจากนานาชาติว่าจะแสดงบทบาทต่อเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะชาติตะวันตกที่ต้องการให้อินเดียมีจุดยืนกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามตลอดการลงมติในเวทีสหประชาชาติ ทั้งในคณะมนตรีความมั่นคง และสมัชชาใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการประณามหรือกดดันให้รัสเซียถอนทหารออกจากยูเครนนั้น อินเดียกลับตัดสินใจโหวต “งดออกเสียง” ทุกครั้ง จนหลายฝ่ายมองว่าอินเดียนั้นอาจเลือกข้างรัสเซียไปแล้ว ความลังเลที่จะตัดสินใจประณามหรือโจมตีรัสเซียอย่างตรงไปตรงมาของอินเดียนี้ ยังส่งผลอย่างมากต่อกลุ่ม QUAD ( Quadrilateral Security Dialogue 4 ชาติ ได้แก่ สหรัฐ ฯ ออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น) ที่เพิ่งประชุมเกี่ยวกับวิกฤตยูเครนไป ซึ่งด้วยความไม่สบายใจของอินเดียส่งผลให้การประชุมดังกล่าวไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อประณามรัสเซียออกมาได้ ในจุดนี้ก็อาจต้องบอกว่าเป็นเรื่องยากสำหรับอินเดียเช่นเดียวกันในวิกฤตนี้ เห็นได้จัดจากถ้อยแถลงในเวทีสหประชาชาติของอินเดีย ที่ไม่กล่าวถึงประเทศใดเป็นการเฉพาะ และยังคงเน้นย้ำให้ทั้งโลกหาทางเพื่อให้เกิดการพูดคุยทางการทูตระหว่างรัสเซียและยูเครน อันเป็นการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด ทั้งนี้อดีตนักการทูตและนักวิชาการด้านการต่างประเทศของอินเดียหลายคนมองว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนนี้ ส่งผลให้อินเดียไม่มีทางเลือกที่ดีเลย (No good options) เพราะไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็มีแต่เสียมาก หรือเสียน้อยเท่านั้นเอง และการตัดสินใจ “งดออกเสียง” ก็มาจากเหตุปัจจัยเหล่านี้ แน่นอนว่าเหตุผลสำคัญที่อินเดียต้องพยายามในการรักษาสมดุลทางการทูตของตัวเองเหนือวิกฤตยูเครนนี้ เป็นผลมาจากสายสัมพันธ์ทางการทูตและการทหารที่ยาวนานระหว่างอินเดียและรัสเซีย เพราะในอดีตนั้นรัสเซียเคยใช้อำนาจ “วีโต้” ของตัวเองเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องแคชเมียร์ให้กับอินเดีย โดยผลักให้เรื่องนี้เป็นปัญหาระดับทวิภาคีแทน…