สำนักข่าว Washington Post รายงานเมื่อ 6 ส.ค.66 อ้างข้อมูลสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐฯ (US Census Bureau) ว่า สหรัฐฯ ลดการนำเข้าจากจีนลงร้อยละ 24 ในห้วง ม.ค.-พ.ค.66 เมื่อเทียบกับห้วงเดียวกันของปี 2565 เนื่องจากการแข่งขันทางยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์ทางการค้าที่ตึงเครียดระหว่างสองประเทศ ทั้งจากการที่สหรัฐฯ กีดกันทางการค้าและควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีสำคัญไปยังจีน นโยบายจัดระเบียบภาคเอกชนของจีนที่ส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน เป็นผลให้ภาคเอกชนของสหรัฐฯ และพันธมิตร อาทิ ญี่ปุ่น เยอรมนี และฝรั่งเศส ย้ายฐานการผลิตเพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่การผลิตจากจีน
ขณะนี้เม็กซิโกกลายเป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของสหรัฐฯ ขณะที่อินเดีย เวียดนาม และไทย เป็นฐานการผลิตทางเลือกของบริษัทอเมริกันที่ต้องการกระจายการลงทุนออกจากจีน ทั้งนี้ จีนยังคงเป็นประเทศผู้ผลิตอันดับ 1 ของโลก โดยมีสัดส่วนมูลค่าเพิ่มการผลิตที่ร้อยละ 31 ของการผลิตทั่วโลก เทียบกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอันดับ 2 ที่ร้อยละ 17