ความรุนแรงและการสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มฮะมาสในพื้นที่ฉนวนกาซา มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น จากการที่อิสราเอลประกาศเมื่อ 14 ต.ค.66 จะใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินในฉนวนกาซา เพื่อปราบปรามกลุ่มฮะมาสไม่ให้เหลือขีดความสามารถในการกลับไปมีอิทธิพลในฉนวนกาซาได้อีก โดยเตรียมพร้อมทหารจำนวน 300,000 นายเพื่อปฏิบัติการดังกล่าว และได้ประกาศผ่านการใช้สื่อและใบปลิวให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาออกจากพื้นที่ Gaza City โดยเร็ว ซึ่งมีการขยายระยะเวลาให้อพยพจาก 24 ชั่วโมงเป็น 30 ชั่วโมงด้วย อย่างไรก็ดี อิสราเอลไม่ได้ยุติการโจมตีทางอากาศต่อฉนวนกาซา ทำให้มีรายงานผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากในห้วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ปัจจุบัน พลเรือนชาวปาเชสไตน์จำนวนมากอพยพไปที่พื้นที่ Rafah ทางตอนใต้ของฉนวนกาซาที่เชื่อมกับคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ ขณะที่อียิปต์ กาตาร์ และสหรัฐอเมริกาเตรียมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมบริเวณดังกล่าว รวมทั้งช่วยเหลือชาวต่างชาติที่ต้องการออกจากฉนวนกาซาออกทางพรมแดนดังกล่าวด้วย
กลุ่มฮะมาสประกาศว่าการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลส่งผลให้ตัวประกันชาวต่างชาติอย่างน้อย 9 รายเสียชีวิตโดยเป็นผลจากการโจมตีของกองทัพอิสราเอลในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นอกจากนี้ สหประชาชาติประกาศว่าพื้นที่หลบภัยภายใต้การดูแลของสหประชาชาติที่อยู่ในฉนวนกาซาก็ไม่ปลอดภัยแล้วเช่นกัน พร้อมเรียกร้องให้ยุติการโจมตีสถานที่ที่เป็นที่หลบภัยของพลเรือน ด้านผู้แทนอิสราเอลประจำสหประชาชาติยืนยันว่า กองทัพอิสราเอลปฏิบัติตามขั้นตอนที่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (IHL) โดยมีการแจ้งเตือนพลเรือนทุกช่องทางและทุกวิธีล่วงหน้าการโจมตี เพื่อลดผลกระทบต่อพลเรือน
แม้อียิปต์จะเห็นด้วยและตกลงที่จะเปิดพรมแดนบริเวณคาบสมุทรไซนาย-ฉนวนกาซา แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากอิสราเอลว่าจะอนุญาตให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปได้ ด้านประธานาธิบดีปาเลสไตน์ประกาศว่าจะไม่ยอมรับการถูกบังคับให้เป็นผู้พลัดถิ่น มีนัยหมายถึงการคัดค้านคำสั่งของอิสราเอลที่ให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาอพยพไปยังทางตอนใต้ ซึ่งจะซ้ำรอยเหตุการณ์หายนะของชาวปาเลวไตน์ หรือ Nakba เมื่อปี 2491 ที่ชาวปาเลสไตน์ถูกบังคับให้อพยพออกจากพื้นที่ และไม่สามารถกลับเข้าไปยังพื้นที่เดิมได้อีก เพราะอิสราเอลควบคุมไว้แล้ว
สหรัฐฯ ประเมินสถานการณ์ความรุนแรงในฉนวนกาซา-อิสราเอลเสี่ยงอันตราย จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่บางส่วนในสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงเยรูซาเล็มและเทลอาวีฟ เดินทางออกจากพื้นที่ ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่อยู่ระหว่างการเยือนตะวันออกกลางเสนอให้มีการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัยในฉนวนกาซา เพื่อให้เป็นเส้นทางลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในพื้นที่ ปัจจุบัน ฉนวนกาซาเสี่ยงเผชิญวิกฤตด้านมนุษยธรรมระยะยาว เนื่องจากถูกตัดไฟฟ้าและพลังงาน รวมทั้งได้รับความเสียหายจากการโจมตีอย่างมาก
ปัจจุบันไทยมีความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีเครื่องบินพาณิชย์พร้อมเดินทางรับคนไทยที่ต้องการเดินทางออกจากพื้นที่ อย่างไรก็ตาม จำนวนคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงมีเพิ่มขึ้น โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย รวมเป็น 24 ราย บาดเจ็บ 16 ราย และเป็นตัวประกัน 16 ราย
เครดิตภาพ AFP
ติดตามอัพเดตสถานการณ์ได้ที่ https://intsharing.co/catagory/israel-palestine-66/