คลิปก่อนๆ ได้พูดถึงยุโรปว่าฝ่ายขวาจัดได้รับเลือกเข้ามาบริหารประเทศมากขึ้นอย่างวิคเตอร์ โอบาน แห่งฮังการี จอร์เจีย เมโลนี่ แห่งอิตาลี และเกี๊ยต ไวลเดอร์ แห่งเนเธอแลนด์ สะท้อนว่าคนยุโรปเริ่มหันไปให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของตนเองก่อนที่จะไปช่วยเหลือคนอื่น ไม่ต่างจากโดนัลด์ ทรัมพ์ แห่งสหรัฐอเมริกาเจ้าของสโลแกนว่าคนอเมริกันต้องมาก่อนซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไรที่ใครจะห่วงตัวเองก่อนคนอื่นแต่การดูถูกเกลียดชังและการใช้ความรุนแรงต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไม่ใช่สิ่งที่ยอมรับได้ในสังคมโลกที่เป็นสากล
ที่ผ่านมาฝ่ายขวา-ขวาจัดมักจะกีดกันและเกลียดชังผู้อพยพและชาวมุสลิมโดยการแสดงออกที่ก้าวร้าว ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเห็นได้จากเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นแต่ก็เกิดบ่อยครั้งขึ้น เช่น การยิงนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก้ ของสโลวัคเกียในระยะประชิด หรือการผลักอกนายกรัฐมนตรีหญิงของเดนมาร์กล้มลงที่ใจกลางกรุงโคเปนเฮเกน ซึ่งทั้งหมดล้วนเกิดจากฝีมือของพวกหัวรุนแรงที่มีความเกลียดชังทางการเมืองเป็นแรงจูงใจ
ตอนนี้ประเทศในสหภาพยุโรป 27 ประเทศกำลังมีการเลือกตั้งสมาชิกสภายุโรปโดยวันอาทิตย์นี้เป็นวันลงคะแนนเสียงพร้อมกัน 20 ประเทศ และผลอย่างเป็นทางการน่าจะประกาศได้ในวันรุ่งขึ้น การเลือกตั้งครั้งนี้จะส่งผลต่อการกำหนดทิศทางของสหภาพยุโรปต่อประเด็นปัญหาที่สำคัญ คือ สงครามยูเครน ผู้อพยพ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกซึ่งแม้ว่าโพลที่ออกมาระบุว่าพรรคฝ่ายอนุรักษ์หรือขวากลางจะยังครองที่นั่งข้างมากแต่เสียงเริ่มพูดกันหนาหูขึ้นว่าฝ่ายขวาจัดที่นำโดยเกี๊ยต ไวล์เดอร์ แห่งเนเธอร์แลนด์ มารีน เลอแปง แห่งฝรั่งเศส และจอร์เจีย เมโลนี่ แห่งอิตาลี จะได้เสียงมากขึ้นและอาจถึง 1 ใน 4 ของเสียงทั้งหมดในสภา 720 เสียง
ปัจจุบัน ในสภายุโรปแบ่งออกเป็นกลุ่มอนุรักษ์-ขวากลาง-ขวาจัด กับกลุ่มซ้ายกลางและพรรคกรีนซึ่งเสียงข้างมากยังอยู่ในกลุ่มอนุรักษ์และขวากลางที่มีนโยบายอนุรักษ์ความเป็นตัวตนและความมั่นคงของยุโรปแต่ยิ่งเวลาผ่านไปเสียงสนับสนุนฝ่ายขวาจัดยิ่งมีมากขึ้นซึ่งหมายความว่าคนยุโรปเริ่มเปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับสังคมและค่านิยมของคนยุโรปมากกว่าผู้อพยพจากต่างถิ่น ส่วนในประเด็นที่เกี่ยวกับสงครามยูเครนก็จะคงไว้ซึ่งการสนับสนุนยูเครนและแซงชั่นรัสเซีย และในประเด็นสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับนโยบายต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกก็จะต้องมีการทบทวนผลกระทบของนโยบายต่อภาคการเกษตรและเศรษฐกิจการค้าของยุโรปเพื่อให้มีความสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของชนชาติยุโรปกับการแก้ปัญหาของโลกภายนอก
มาคอยดูกันต่อไปว่า ใคร ฝ่ายใด จะชนะเลือกตั้งในสภายุโรป
