สำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อ 31 ก.ค.67 อ้างการให้สัมภาษณ์ของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ว่า ยูเครนไม่ต้องการให้จีนเป็นผู้ไกล่เกลี่ย แต่ต้องการให้จีนมีบทบาทช่วยกดดันรัสเซียให้ยุติสงคราม อย่างเช่น สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ที่พยายามเคลื่อนไหวกดดันรัสเซียต่อเนื่อง อีกทั้งมองว่าจีนมีอิทธิพลสูงต่อรัสเซีย
นอกจากนี้ แม้ยูเครนยืนกรานที่จะยึดคืนดินแดนที่สูญเสียและกลับสู่เขตแดนเมื่อปี 2534 หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต แต่ยูเครนจะยังคงพิจารณาเปิดการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียถอนทหารออกจากดินแดนยูเครนทั้งหมด และในเงื่อนไขการเจรจาที่เหมาะสมเท่านั้น