กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund – IMF) ประเมิน เมื่อ 9 เม.ย.68 ว่า หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นต้นมา หนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ในระดับสูงถึงร้อยละ 89 ของ GDP ส่งผลกระทบต่อการบริโภค การลงทุน และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค รวมถึงเพิ่มแรงกดดันในการชำระหนี้ของประชากรกลุ่มเปราะบางและธุรกิจขนาดเล็ก สาเหตุหลักคือการที่แรงงานจำนวนมากในไทยไม่ได้เป็นแรงงานในระบบ ส่งผลให้ไม่มีรายได้ประจำที่แน่นอน และไม่ได้รับการคุ้มครองสวัสดิการ จึงเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะขาดรายได้ หากเศรษฐกิจในประเทศประสบภาวะชะลอตัวหรือตกต่ำและผลักดันให้แรงงานกลุ่มดังกล่าวต้องกู้ยืมเงินเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ทั้งนี้ IMF ระบุว่าการเสริมสร้างการคุ้มครองทางสังคมเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำและลดหนี้ครัวเรือนลงได้