ประธานาธิบดีอะห์มัด อัชชะระอ์ ของซีเรีย แถลงเมื่อ 17 ก.ค.68 ว่า ซีเรียให้ความสำคัญกับการปกป้องชาวดรูซเป็นอันดับแรกและปฏิเสธทุกความพยายามที่จะชักจูงให้ชาวดรูซตกไปอยู่ใต้อิทธิพลของต่างชาติ (มีนัยหมายถึงอิสราเอล) อีกทั้งย้ำว่ารัฐบาลซีเรียยึดถือผลประโยชน์ของชาวซีเรียว่ามีความสำคัญกว่าการทำสงคราม แต่พร้อมจะต่อสู้ หากมีการคุกคามศักดิ์ศรีของชาวชีเรีย โดยแถลงการณ์นี้เป็นการแสดงท่าทีอย่างเป็นทางการครั้งแรกของประธานาธิบดีอัชชะระอ์ หลังจาก กกล.ป้องกันอิสราเอล (IDF) โจมตีทางอากาศในกรุงดามัสกัส ซีเรีย เมื่อ 16 ก.ค.68 บริเวณ สนญ.กห.ซีเรียและเป้าหมายทางทหารใกล้ทำเนียบประธานาธิบดี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 34 คน และเป็นการโจมตีซีเรียระลอกที่ 3 นับตั้งแต่ IDF เริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเมื่อ 14 ก.ค.68 โดยอ้างเหตุผลเพื่อปกป้องชุมชนชาวดรูซ และทำให้พื้นที่ชายแดนอิสราเอลที่ติดกับซีเรียเป็นเขตปลอดทหาร เนื่องจาก กกล.ซีเรียเคลื่อนกำลังเข้าไปควบคุมเหตุปะทะระหว่าง กกล.ติดอาวุธชาวดรูซกับนักรบชนเผ่าเบดูอิน ใน จ.Sweida ทาง ตต.ต.ของซีเรีย ซึ่งติดกับตอนเหนือของอิสราเอล แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเข้าข้างชนเผ่าเบดูอิน จนนำไปสู่การปะทะระหว่าง กกล.ซีเรียกับชาวดรูซ