สนข.Reuters รายงานเมื่อ 22 ก.ย.68 ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ตลาดลอนดอน ปรับเพิ่ม 28 เซนต์ อยู่ที่ 66.96 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ที่ตลาดนิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ อยู่ที่ 62.88 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากสถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปและตะวันออกกลางห้วง ก.ย.68 เช่น การที่รัสเซียละเมิดน่านฟ้าประเทศสมาชิก NATO หลายประเทศ เช่น โปแลนด์ และเอสโตเนีย ขณะที่ยูเครนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซียเพิ่มขึ้น รวมทั้งกรณีประเทศตะวันตก ได้แก่ สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย และโปรตุเกส ประกาศรับรองความเป็นรัฐของปาเลสไตน์ เมื่อ 21 ก.ย.68 จะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้อิสราเอลตอบโต้รุนแรงมากขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ประเมินว่าในระยะยาวมีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันดิบจะลดลง เนื่องจาก อุปทานน้ำมันดิบโลกยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ และสหรัฐฯ รวมทั้งคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะไม่กระตุ้นให้อุปสงค์น้ำมันดิบสูงขึ้น