สหรัฐฯ จะใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าตรวจสอบผู้เดินทางที่ไม่ใช่พลเมือง
สหรัฐอเมริกาจะเริ่มใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า (facial recognition) สอดส่องผู้เดินทางเข้า-ออกประเทศที่ไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ ตั้งแต่ 26 ธ.ค.68 เพื่อปราบปรามการพำนักอาศัยเกินกำหนดวีซ่า
สหรัฐอเมริกาจะเริ่มใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า (facial recognition) สอดส่องผู้เดินทางเข้า-ออกประเทศที่ไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ ตั้งแต่ 26 ธ.ค.68 เพื่อปราบปรามการพำนักอาศัยเกินกำหนดวีซ่า
สหรัฐฯ เป็นประเทศอันดับต้น ๆ ที่เผชิญกับการหลอกลวง เฉพาะอย่างยิ่งกับการถูกหลอกลวงทางออนไลน์ เนื่องจากเป็นสังคมที่ขึ้นอยู่กับโลกออนไลน์ โดยชาวอเมริกันส่วนใหญ่ใช้ชีวิต หรือทำกิจกรรมบนโลกออนไลน์ เช่น การติดต่อสื่อสาร การจับจ่ายใช้สอย และการทำธุรกรรมทางการเงิน เป็นต้น ข้อมูลจาก www.thedigitalwhale.com เปิดเผยว่าชาวอเมริกันร้อยละ 85 ใช้ระบบออนไลน์ทุกวัน และร้อยละ 31 ใช้เกือบตลอดเวลา เฉลี่ยแล้วใช้สื่อดิจิทัล 8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งรวมทั้งการเล่นโซเชียลมีเดีย สำนักงานสืบสวนกลาง (Federal Bureau Investigation-FBI) มีข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าความสูญเสียที่ชาวอเมริกันถูกหลอกลวงออนไลน์ ว่าเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยเมื่อปี 2567 สูงถึง 16.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรายงานของ Pew Research ของสหรัฐฯ ที่สำรวจความเห็นของชาวอเมริกัน และเผยแพร่เมื่อ เมษายน 2568 พบว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เห็นว่าการหลอกลวงทางออนไลน์เป็นปัญหาระดับประเทศ คนหนุ่มสาวประมาณ ร้อยละ 73 เคยถูกหลอกลวงทางออนไลน์ เช่น การผ่าน shopping scam วิธีที่คนหนุ่มสาวนถูกสแกมเมอร์หลอกลวง…
Scam หรือการหลอกลวง มีหลากหลายรูปแบบ และหลายวิธี การหลอกลวงทางออนไลน์ที่เติบโตตามการใช้เทคโนโลยีของประชาชน ก็เป็นการหลอกลวงประเภทหนึ่งที่ทำให้กลุ่มหลอกลวง หรือนักหลอกลวง (scammer) ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีทั่วทุกหนทุกแห่ง เทคโนโลยียังทำให้การหลอกลวงทางออนไลน์ทำได้โดยสะดวก ง่าย และเข้าถึงทุกระดับ เป้าหมายของ scammer ไม่ได้หลอกลวง เพื่อหารายได้เพียงอย่างเดียว แต่มีการก่ออาชญากรรมควบคู่กันไปด้วย เช่น การค้ามนุษย์ การค้าสิ่งของผิดกฎหมาย การทรมาน การบังคับใช้เป็นทาส และร้ายแรงที่สุดก็นำไปสู่การสูญเสียชีวิต เป็นต้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รายงาน Global State of Scams 2024 ของ Global Anti-Scam Alliance ประเมินว่าความเสียหายจากการถูก Scam มีมูลค่าประมาณ 1.03 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในห้วง 12 เดือนที่ผ่านมา (เมื่อปี 2544 ประมาณ 46.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยเหยื่อที่ได้เงินคืนมีเพียง ร้อยละ 4 และยังมีตัวเลขที่ผู้บริโภคสูญเสียที่ไม่เปิดเผยอีกมาก เนื่องจากผู้ถูกล่อลวงประมาณ ร้อยละ…