เมื่อ 21 พฤศจิกายน 2564 ชาวเมียนมาจำนวน 21 คน ได้สูญหายไปในทะเลระหว่างการเดินทางไปทำบุญที่เจดีย์ไจ๊แน ซึ่งตั้งอยู่กลางเนินหินในทะเล ใกล้เมืองตาน-พยูซะยะ รัฐมอญ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากระหว่างที่ชาวเมียนมาเดินเท้าไปทำบุญ ก็เกิดน้ำทะเลหนุนสูงฉับพลันขึ้น อุบัติเหตครั้งนี้เกิดขึ้นในห้วงเดียวกับที่กรุงเทพมหานครเผชิญน้ำท่วมเฉียบพลันจากน้ำทะเลหนุนสูง โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่น้ำทะเลหนุนสูงอย่างรวดเร็วจนทำให้น้ำจืดในแม่น้ำเจ้าพระยาไม่สามารถไหลระบายลงทะเลได้ ประกอบกับปริมาณน้ำเหนือหรือน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณมากอยู่แล้วจากปริมาณฝนที่ตกลงมาเกินความจุของแม่น้ำ น้ำจึงล้นตลิ่งเอ่อท่วมไปยังชุมชนจนได้รับความเดือดร้อนไปตาม ๆ กัน สถานการณ์เหล่านี้เป็นการส่งสัญญาณเตือนเราอีกครั้งว่า การบริหารจัดการน้ำที่ดีต้องมีทั้งการระบายน้ำ และต้องคำนึงถึงระยะเวลาของ “น้ำขึ้น-น้ำลง” ด้วย
เนื้อเพลงท่อนหนึ่งที่คุ้นหูจาก เพลงลอยกระทง “…วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองตลิ่ง…” บ่งบอกว่า ในช่วงปลายปี ปริมาณของน้ำในแม่น้ำและคลองจะเอ่อเต็ม เนื่องจากน้ำฝนหลังฤดูฝนไหลลงมาเจอกับน้ำทะเลขึ้น และเป็นผลจากปรากฏการณ์ “น้ำขึ้น-น้ำลง” ที่น้ำถูกแรงดึงดูดของดวงจันทร์ (Tidal force) ดึงให้สูงขึ้นตามลักษณะการโคจรรอบโลกของดวงจันทร์ในรอบเดือน และเมื่อการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ใน 1 ปี ทำให้เกิดการเรียงตัวของ โลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ในแนวที่แตกต่างกัน ซึ่งแรงดึงดูดจากดวงอาทิตย์ก็จะช่วยเสริมให้เกิด น้ำขึ้น-น้ำลงที่รุนแรงมากขึ้นในแต่ละช่วงปี
แม้ปรากฏการณ์ “น้ำขึ้น-น้ำลง” ที่เกิดจากดวงจันทร์จะทำให้ชุมชนริมน้ำต้องคอยระวังน้ำท่วม อย่างไรก็ดี ปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ เช่น กรณีอุบัติเหตุเรือบรรทุกสินค้าเอเวอร์ กิฟเวน (Ever Given) ขวางคลองสุเอซ ประเทศอียิปต์ วนช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2564 ที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการขนส่งสินค้า จึงจำเป็นต้องเร่งพาเรือออก แต่เพราะเรือมีขนาดใหญ่จึงทำให้การพาเรือออกเป็นเรื่องยากเย็น แต่เมื่อน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้ระดับน้ำในคลองสุเอซสูงขึ้น เรือยักษ์จึงลอยออกจากตลิ่งได้ง่ายและแก้ไขปัญหาได้ในที่สุด ภายหลังอียิปต์เรียกร้องค่าเสียหายกว่า 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนั้น ความแตกต่างของระดับน้ำทะเลยังสามารถนำมาใช้ในการผลิตพลังงานได้ ด้วยการติดตั้งทุ่นกังหันบริเวณผิวน้ำเมื่อน้ำไหลผ่านในช่วงที่น้ำขึ้นและลง ก็จะสามารถสร้างพลังงานได้ ทั้งนี้ ความสามารถในการผลิตพลังงานจากน้ำขึ้นน้ำลงก็ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศด้วย โดยช่องแคบหรือปากแม่น้ำจะทำให้น้ำไหลแรงขึ้นและผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น
น้ำขึ้น-น้ำลง เป็นเพียงหนึ่งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นระหว่างโลกกับดวงจันทร์ จริง ๆ แล้วดวงจันทร์มีพลังต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกมากมาย ตั้งแต่ “การชนครั้งใหญ่” หรือเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดดวงจันทร์เมื่อประมาณ 4.5 พันล้านปีก่อน ดวงจันทร์ก็ได้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับโลก โดยเปิดโอกาสให้เกิดสิ่งมีชีวิตจากการไหลเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทร การที่ดวงจันทร์หลุดแยกออกจากโลกจากการกระแทกก็ทำให้เปลือกโลกเคลื่อนที่ทดแทนส่วนที่หลุดไป และเปลือกโลกก็เคลื่อนตัวจนเกิดเป็นแผ่นดิน นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดวงจันทร์ได้ปกป้องโลกจากการโจมตีจากอุกกาบาต ดึงดูดเศษหินในอวกาศให้ตกลงที่ดวงจันทร์ เพิ่มโอกาสรอดของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งเพิ่มระยะเวลาให้สิ่งมีชีวิตรอดจากการสูญพันธ์และวิวัฒนาการจนมาเป็นมนุษย์จนถึงทุกวันนี้
ไม่ใช่แค่อิทธิพลต่อการดำรงชีวิตเท่านั้น แต่ “พลังของดวงจันทร์” ยังผูกพันไปถึงประเพณีและวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นบทเพลงเกี่ยวกับดวงจันทร์ เทพแห่งดวงจันทร์ และตำนานอีกมากมายเกี่ยวกับดวงจันทร์ เช่น พระจันทร์สีเลือด ที่สร้างความหวาดกลัวให้กับอารยธรรมต่างๆ หรือความคลั่งของผู้คนในวันพระจันทร์เต็มดวงที่เป็นที่มาของ มนุษย์หมาป่า นั่นเอง
แม้ว่าโลกจะเป็นต้นกำเนิดและผูกพันกับดวงจันทร์มานานแสนนาน แต่จริง ๆ แล้วดวงจันทร์กำลังออกห่างจากโลกไปโดยเฉลี่ยปีละ 3.82 เซนติเมตร นี่เป็นข้อค้นพบจากการเฝ้าสังเกตเป็นเวลานานเกี่ยวกับดวงจันทร์ ซึ่งอาจจะทำให้วลี “shoot to the moon” (ตั้งเป้าหมายให้สูง และพยายามไปถึงเป้าหมายอย่างสุดความสามารถ) กลายเป็นเรื่องที่ท้าทายและยากกว่าที่มันเคยเป็น อย่างไรก็ดี มนุษย์ไม่เคยหมดความหลงใหลเกี่ยวกับดวงจันทร์ ที่ผ่านมา การศึกษาเกี่ยวกับดวงจันทร์ทำให้เราอธิบายปรากฏการณ์และความเชื่อต่างๆ ได้มากขึ้น ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2512 นีล อารมสตรอง เป็นมนุษย์คนแรกที่ได้ไปเหยียบดวงจันทร์ จากนั้นมนุษย์ก็พยายามทำความเข้าใจดวงจันทร์อย่างต่อเนื่อง และในยุคที่การท่องเที่ยวในอวกาศเริ่มเป็นเทรนด์ที่คนให้ความสนใจกันมากขึ้น ความฝันที่จะได้ไปเยือนดวงจันทร์ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป อย่างน้อย ๆ NASA ก็ประกาศภารกิจกลับไปดวงจันทร์อีกรอบในปี พ.ศ. 2568 โดยกำลังร่วมมือกับ SpaceX เพื่อเร่งภารกิจดังกล่าวให้เสร็จสมบูรณ์และเป็นความก้าวหน้าของมวลมนุษยชาติอีกครั้ง
——————————————–