BITCUB Coin หรือ Kub Coin เหรียญยอดนิยมของนักลงทุนไทยที่มีอัตราการเจริญเติบโตกว่า 4,800% จากจุดต่ำสุดเมื่อปี 2564 และจากการที่เหรียญ Kub ได้รับการเพิ่มเข้าสู่กระดานซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลในต่างประเทศอย่าง Gate.io และ CoinEx เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันราคา Kub ถูกตรึงเข้ากับตลาดโลกและราคา Bitcoin จนทำให้ราคาถูกดึงลงไปต่ำกว่า 360 บาท เพราะมีปริมาณการเทขาย (volume) จากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาเป็นปัจจัยกระทบตาม Bitcoin ไปโดยปริยาย จากเดิมที่เคยมีเปิดซื้อ-ขายเพียงแห่งเดียวในกระดานของบริษัท Bitkub ในไทยซึ่งมีปริมาณสภาพคล่อง (liquidity) ที่ต่ำ และมีความอ่อนไหวต่อการเคลื่อนไหวของเงินทุนที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ทำให้ราคา Kub มักเคลื่อนตัวโดยไม่อิงกับทิศทางของตลาดโลกอยู่บ่อยครั้ง เช่นในช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 ที่ราคา Kub พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงจนแตะ 500 บาท ก่อนร่วงลงไปที่ 150 บาท ภายใน 3 วันถัดมา
แนวโน้มด้านการเคลื่อนไหวของราคาในปัจจุบัน คือมีแรงช้อนซื้อ Kub จากบริเวณแนวรับที่ราคา 300-360 บาท ซึ่งเป็นแนวรับหลักจากเส้นแนวทะแยง (trendline) ที่ Kub ทะลุออกมาได้เมื่อช่วงปลายพฤศจิกายน 2564 จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าการที่ราคาร่วงลงมาที่ 300 บาทครั้งนี้จะเป็นการลงมาเพื่อสัมผัสเส้นดังกล่าวเพื่อที่จะขึ้นไปต่อโดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่การกลับไปยืนเหนือราคา 500 บาทให้ได้ โดยหาก Kub สามารถผ่านแนวต้าน 500 บาทและไม่ร่วงลงมาต่ำกว่า 450-480 บาท อาจจะมีแรงซื้อตามเข้ามาจนสามารถส่งราคา Kub ไปได้ถึง 600-650 บาท ซึ่งเป็นเป้าราคาตามกรอบ 161.8% Fibonacci ที่ Kub เคยพยายามทะยานขึ้นไปสัมผัส เมื่อปลายธันวาคม 2564 แต่ไม่สามารถยืนบนราคาดังกล่าวได้ บวกกับได้รับผลกระทบจากแรงเทขายในตลาด Cryptocurrency ตามการเคลื่อนของ Bitcoin ช่วงปีใหม่
หากพิจารณาจากเครื่องมือ Moving Average Convergence Divergence (MACD) ที่ใช้วัดปริมาณและความหนาแน่นของแรงซื้อ-แรงขายผ่านการคำนวณด้วยเส้นค่าเฉลี่ยแต่ละเส้น จะเห็นว่าแม้ปัจจุบันแรงซื้อจะมีลดลงอย่างชัดเจน แต่เส้น MACD นั้นยังไม่ได้เข้าสู่ช่วงไขว้กันจนเส้นสีแดงขึ้นไปอยู่เหนือเส้นสีน้ำเงิน แนวโน้มที่ราคาจะยังคงมีแรงซื้อตามเข้ามา จึงยังมีสูง อีกทั้งระยะห่างของเส้น MACD ที่อยู่เหนือ 0 ยังมีมากกว่า 130 แสดงให้เห็นถึงปริมาณแรงซื้อมหาศาลที่คอยพยุงราคาของ Kub ไว้ ทำให้ยังมีพื้นที่สำหรับการขยับตัวของเหรียญ Kub อีกมากในเดือนมกราคม ก่อนที่จะถึงจุดกลับตัวเข้าสู่ขาลงอย่างจริงจังในอนาคต หลังเส้น MACD ไม่สามารถพยุงแรงซื้อให้กลับไปอยู่เหนือบริเวณ 140-160 จนเกิดสัญญาณการกลับตัวสู่ขาลง (Bearish divergence) ได้ และไขว้กันลงไปอยู่ในตำแหน่งต่ำกว่า 0
ในกรณีที่ราคา Kub ไม่ผ่านแนวต้าน 500 บาท อาจร่วงลงมาทดสอบแนวรับบริเวณ 300-360 บาท อีกครั้ง ในช่วงกลางเดือนมกราคม 2565 เพื่อให้ฝ่ายที่ช้อนซื้อและฝ่ายที่เทขายสู้ราคากันจนเกิดภาวะไร้ทิศทาง (sideway) สักพัก โดยหากไม่สามารถขึ้นกลับไปทดสอบแนวต้านเป็นครั้งที่ 4 ได้ อาจจะถูกนักลงทุนในตลาดเทขายจนราคาหลุดแนวรับ 300 บาท ไปแตะแนวรับที่ 250 บาท และ 200 บาทได้ตามลำดับ ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2565 อย่างไรก็ดี สิ่งที่พึงระวัง และตระหนักไว้คือ ค่า Relative Strength Index (RSI) ที่ใช้วัดแรงซื้อ-แรงขายกำลังบ่งชี้ว่าปัจจุบันแรงซื้อ Kub มีปริมาณลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจนเกิดสัญญาณการกลับตัว (Bearish divergence) มาตั้งแต่ธันวาคม 2564 ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้ Kub สามารถพยุงราคาและไปต่อได้ ควรรักษาระดับแรงซื้อไว้ให้เหนือกว่าระดับ 50-55 ของค่า RSI และจะต้องทะลุผ่านแนวต้านเส้นทแยงขึ้นไปเหนือบริเวณ 65 ของค่า RSI ให้ได้ภายในช่วงกลางเดือนมกราคม ทั้งนี้ หากไม่สามารถผ่านบริเวณค่า RSI 65 ไปได้ และถูกเทลงมาที่ระดับต่ำกว่า RSI 50 นั้น Kub อาจเข้าสู่ช่วงพักตัวชั่วคราว หรือตลาดขาลงได้
***บทความนี้เป็นบทความสรุปความเคลื่อนไหวของตลาดสกุลเงินดิจิทัล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
The Intelligence มีข้อพิจารณาว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน ก่อนตัดสินใจลงทุน***