สำหรับค่าเงิน Pound sterling หรือ GBP ของอังกฤษ ปัจจุบันกราฟแท่งเทียนของห้วง 1 ปีที่ผ่านมา ยังนับว่าเป็นขาลงอยู่ หลังจากกราฟ GBPUSD ไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านเส้นสีส้มที่ $1.42349 (ตามภาพที่ 1) ไปได้เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ทำให้ราคาสกุลเงิน GBP ที่อิงกับมูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวต่ำลงอย่างต่อเนื่องจนหลุดแนวรับสำคัญของตลาดขาขึ้นทั้งเส้นสีม่วงที่บริเวณ $1.38319 และเส้นสีเขียวบริเวณ $1.36638 ลงมาตามกรอบทแยง (descending channel) ตลอด โดยไม่สามารถขยับออกไปนอกกรอบได้เลยเป็นเวลามากกว่า 8 เดือน แม้ว่าช่วงพฤศจิกายนที่ผ่านมา จะได้เห็นความพยายามในการทะลุออกไปนอกกรอบแนวต้านเส้นสีดำก็ตาม แต่ไม่นานก็โดนแรงขายบริเวณแนวต้านเส้นสีม่วง $1.38319 เทขายจนราคาร่วงอย่างรุนแรง และหลุดจากแนวรับเส้นสีน้ำเงินที่ $1.34614 ลงจนถึงเส้นสีแดงบริเวณ $1.31618 ซึ่งเป็นแนวรับสุดท้าย และเป็นจุดที่ราคาของสกุลเงิน GBP ลงมาทำจุดต่ำสุดเมื่อช่วงปลายปี ความเป็นจุดต่ำสุดของปี 2021 นี้ ทำให้นักลงทุนจำนวนมากเล็งเห็นว่าจะสามารถเป็นจุดกลับตัวของกราฟได้ และทยอยเข้ามาช้อนซื้อที่ราคาดังกล่าวจนกราฟพุ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านเส้นเขียวที่ $1.36638 ถึง 2 ครั้งแต่ไม่ผ่าน ทำให้ราคาถูกเทขายลงมาอีกครั้งในช่วงกุมภาพันธ์ 2565
หากพิจารณาผ่านกราฟเทคนิคัล จะเห็นว่าแท่งเทียนของกราฟค่าเงิน GBP นี้สะท้อนถึงการปฏิเสธราคาตามแนวต้าน และความไม่มั่นใจของนักลงทุนที่ไม่เชื่อมั่นว่าแนวต้านเส้นสีเขียวที่ $1.36638 นี้จะแตกแล้วสามารถพลิกไปเป็นแนวรับได้ บวกกับกรณีที่นักเก็งกำไรระยะสั้นที่ช้อนซื้อเงิน GBP ช่วงปลายปี 2564 ได้ทยอยแบ่งขายเงิน GBP เพื่อทำกำไร (TP) แล้วหันไปถือครองทองคำตามกระแสข่าวเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา และกรณีรัสเซียจะทำสงครามกับยูเครนแทน ทำให้มีเงินทุนไหลออกจากสกุลเงินของทั้งกลุ่มประเทศในภูมิภาคยุโรป และเงินดอลลาร์สหรัฐ แล้วไหลไปเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ (XAU) ทองคำขาว (XPT) แร่พัลลาเดียม (XPD) และโลหะมีค่าชนิดอื่นๆในตลาดแทน (precious metals) เพื่อลดอัตราความเสี่ยงจากการสูญเสียมูลค่าของค่าเงินอย่างมีนัยสำคัญและสัมพัทธ์กัน (currency correlation) ราคาของเงิน GBP จึงยังไม่สามารถผ่านแนวต้านไปได้ง่ายๆในระยะใกล้นี้ โดยหากแนวรับเส้นสีแดงบริเวณ $1.31618 ไม่สามารถรับค่าเงิน GBP ไว้ได้ อาจราคาร่วงลงไปที่บริเวณ $1.285 และ $1.26766 ก่อนตลาดจะพบจุดกลับตัวได้
ท้ายสุดในมุมของเครื่องมือวัดแรงซื้อ-แรงขาย (RSI) จะเห็นว่ากราฟค่า RSI ของเงิน GBP ติดอยู่ในกรอบสามเหลี่ยม (ตามภาพที่ 2) มาตลอดทั้งปี 2564 โดยมีการพยายามทะลุกรอบออกมา 1 ครั้งแต่ไม่สำเร็จและทำให้กราฟแรงขายเพิ่มเข้ามาจนกดค่า RSI ลงไปแตะขอบล่างของกรอบสามเหลี่ยมที่ 30-32 ก่อนจะมีแรงซื้อทยอยเพิ่มเข้ามาในช่วงปลายปี และผ่านแนวต้านกรอบสามเหลี่ยมออกมายืนเหนือโซน 38-40 ของค่า RSI ได้ อย่างไรก็ดี ค่า RSI ของเงิน GBP ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านที่บริเวณค่า 70 ซึ่งมีนัยสำคัญได้ เนื่องจากเป็นโซนที่ได้รับผลกระทบจากแนวต้านเส้นสีแดง (ตามภาพที่ 2) ซึ่งเป็นแนวต้านที่มีต่อความมั่นใจของนักลงทุนในตลาดว่าขาลงอาจจะยังไม่จบ (hidden bearish divergence) ทำให้มีแรงขายอย่างรุนแรงพุ่งเข้ามาในกลุ่มนักลงทุนเงิน GBP ทันทีเมื่อกราฟ RSI ขึ้นไปแตะโซน 70 ผู้ที่ต้องการช้อนซื้อเงินสกุล GBP อาจรอให้ราคาถูกเทขายลงไปจนหลุด $1.31618 โดยที่ค่า RSI ไม่ถูกกระชากลงไปจนทะลุเลยขอบล่างของกรอบสามเหลี่ยม (ภาพที่ 2) ก่อนได้ เพราะจะมีสัญญาณการกลับตัว (bullish divergence) เกิดขึ้น
***บทความนี้เป็นบทความสรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงินและตลาดทุนฯลฯ ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน The Intelligence มีข้อพิจารณาว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน ก่อนตัดสินใจลงทุน***